ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้า โลกก็จะยิ่งหมุนไปไวยิ่งขึ้น เฉกเช่นเดียวกันกับวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่ทุกปีจะมีการเปิดตัว รถ Hypercar รุ่นใหม่ ๆ ที่มีสมรรถนะความเร็วที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง และแน่นอนว่าแต่ละปีก็จะมีการจัดอันดับรถที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งเป็นที่จับตามองของผู้ที่รักความเร็วไปทั่วทั้งโลก ไม่เว้นแม้กระทั่งประเทศไทย
ซึ่งรถยนต์ส่วนมากที่ติดอันดับรถที่เร็วที่สุดในโลกจะอยู่ในรถประเภทของ รถ Hypercar และ รถ Supercar ด้วยปัจจัยอย่าง ราคา ที่ไม่ใช่ใครก็สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ แต่แน่นอนว่ายิ่งราคาแพง สมรรถนะความเร็วก็จะสูงขึ้นตามลำดับ
พัฒนาการของรถยนต์ในปีที่ผ่านมา
ภาพจาก Golden Emperor
พัฒนาการของรถยนต์ตั้งแต่ปี 2021 จวบจนมาถึงปัจจุบันนั้นมีทิศทางพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่มีการก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การพัฒนารถยนต์นั้นก้าวกระโดดตามไปด้วย โดยรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ได้ถูกปรับแต่งให้ทรงพลัง ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ แรงม้า แต่ยังรวมถึงส่วนประกอบต่าง ๆ เช่น ช่วงล่างรถยนต์ ตัวขับส่ง ฯลฯ อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบาลง มีการปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุมีความพรีเมี่ยมสูง พร้อมดีไซน์โมเดิร์นล้ำยุค จนทำให้เกิดรถที่เร็วที่สุดในโลกขึ้นมาหลายรุ่นในปี 2022
ปัจจัยในการวัดความเร็วของรถยนต์
ภาพจาก Motor Biscuit
หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าการที่จะติดอันดับของรถที่เร็วสุดในโลกนั้นจะต้องอิงกับ ‘แรงม้า’ เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว แค่แรงม้าอย่างเดียวอาจจะไม่พอ เพราะสมรรถนะความเร็วโดยรวมนั้นมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การดีไซน์ที่จะต้องอิงจากหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) ที่จะช่วยลดแรงต้านจากอากาศ ทำให้ตัวรถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น เพื่อการควบคุมรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม รวมไปถึงระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลังรถยนต์ และวัสดุที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ เป็นต้น
ดังนั้นแล้วหากเราต้องการจะวัดว่ารถรุ่นนั้นมีความเร็วที่สุดในโลกจริงหรือไม่ จะต้องดูหลาย ๆ ปัจจัยดังที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น รวมถึงการทดสอบจากสนามจริง ไม่อิงแค่ Spec Sheet เพื่อให้เป็นที่ยอมรับว่าเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกที่แท้จริง
โดยวันนี้ Prime Cars Rental จะมานำเสนอ 8 รถ Hypercar ที่เร็วแรงที่สุด อัปเดตใหม่ล่าสุดปี 2022 โดยจะมีรุ่นอะไรบ้าง จะเป็นรุ่นที่คุณรู้จักหรือไม่ ไปติดตามกันได้เลย
8 อันดับ รถ Hypercar ที่เร็วที่สุดในโลก ปี 2022
รถ Hypercar อันดับที่ 8 : Hennessey Venom GT
ภาพจาก Supercars
มาเริ่มกันที่ Hypercar ที่เร็วที่สุดในโลกปี 2022 อันดับที่ 8 อย่าง Hennessey Venom GT นั้นนับว่าเป็น Hypercar รุ่นที่ถูกพัฒนาออกมาเพื่อล้มบัลลังก์รถยนต์ซีรีส์ Bugatti Veyron อย่างแท้จริง โดย Hennessey ได้ซุ่มพัฒนา Hypercar รุ่นนี้เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2011 และกวาดคำชมไปได้ล้นหลาม ด้วยดีไซน์รถที่หรูหรา มีความโค้งมน และโครงรถที่ใช้วัสดุ Carbon-fiber ที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง รวม ๆ แล้วดีไซน์ออกมาคล้ายกับเสือดำที่พร้อมกระโจนไปได้ทุกเมื่อ
Hennessey Venom GT มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบเทอร์โบคู่ LS7 V-8 สูบ พลังกำลัง 1,244 แรงม้า มีแรงบิดอยู่ที่ 1,155 ปอนด์/ฟุต มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 434 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง ใช้ระบบเกียร์ 6 จังหวะ เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ใน 3.05 วินาที มีราคาอยู่ที่ $1.2 ล้านเหรียญ
รถ Hypercar อันดับที่ 7 : Koenigsegg Agera RS
ภาพจาก SuperVettura
Hypercar ที่เร็วที่สุดในโลกปี 2022 อันดับที่ 7 ได้แก่ Koenigsegg Agera RS เป็น Hupercar รุ่นที่ทรงพลังที่สุดในซีรีส์ Agera และทำสถิติเป็นรถยนต์ที่ขายได้รวดเร็วที่สุดในโลกของเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 โดยถูกผลิตอย่างพิถีพิถันเป็นจำนวนจำกัดที่ 25 คันในโลกเท่านั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่หายากที่สุดในโลก
Koenigsegg Agera RS มีดีไซน์มันเงา หรูหรา ตอบโจทย์ของผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่มีสมรรถนะครบทุกด้าน โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบเทอร์โบคู่ความจุ 5 ลิตร V8 สูบ พลังกำลัง 1,160 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ใน 2.8 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 457 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีราคาอยู่ที่ $2.5 ล้านเหรียญ
รถ Hypercar อันดับที่ 6 : C zinger 21c
“A Revolutionary Hypercar Built for the 21st Century – C zinger”
หากถามว่า Hypercar รุ่นไหนที่มีการดีไซน์โดยใช้เทคโนโลยีล้ำยุคที่สุด ก็จะต้องมี C zinger 21c ติดอันดับอยู่อย่างแน่นอน ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาผนวกใช้ร่วมกับกระบวนการวิจัยและผลิต จนทำให้ได้รถยนต์ที่มีดีไซน์ที่ตรงกับหลักพลศาสตร์มากที่สุด ดังนั้น C zinger 21c จึงติดอันดับ Hypercar ที่เร็วที่สุดในโลกปี 2022 อันดับที่ 6 ไปได้
C zinger 21c ได้แรงบันดาลใจของการดีไซน์มาจากเครื่องบินตรวจการรุ่นโด่งดังอย่าง Lockheed SR-71 Blackbird จากสหรัฐอเมริกา และชิ้นส่วนรถยนต์บางชิ้นจะมีการสร้างขึ้นจาก เครื่องพิมพ์สามมิติ โดยใช้วัสดุหลักอย่าง Titanium และ Aluminium ภายในห้องโดยสารจะให้บรรยากาศคล้ายกับการนั่งอยู่ในคอนโซลเครื่องบิน ตกแต่งภายในอย่างหรูหราด้วยวัสดุ Carbon-fiber มีติดตั้งจอขนาดใหญ่เพื่อแสดงข้อมูลความเร็ว และจอเสริมระบบสัมผัสที่ใช้ควบคุมระบบภายในรถได้
Czinger 21C มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบเทอร์โบคู่ ความจุ 2.8 ลิตร V8 สูบ พลังกำลัง 1,250 แรงม้า สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 1.8 วินาที ใช้ระบบเกียร์ 7 จังหวะ สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 452 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีราคาอยู่ที่ $1.7 ล้านเหรียญ
รถ Hypercar อันดับที่ 5 : Bugatti Chiron Super Sport 300+
ภาพจาก Carscoops
Hypercar ที่เร็วที่สุดในโลกปี 2022 อันดับที่ 5 ได้แก่ Bugatti Chiron Super Sport 300+ เป็น Hypercar ที่เกิดขึ้นเนื่องจาก Bugatti ได้ตั้งเป้าหมายใหม่ คือการสร้าง Bugatti Chiron เวอร์ชันที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมเพื่อทำลายสถิติโลกลงให้ได้
ดังนั้น Bugatti จึงได้จับมือกับ Centodieci เพื่อนำเครื่องยนต์คุณภาพสูงมาใช้เพิ่มสมรรถนะให้เร็วแรงยิ่งกว่าเดิม มีการปรับปรุงประสิทธิภาพเกียร์ใหม่ และได้อัปเกรดตัวถังให้ตรงกับหลักพลศาสตร์ 100% ทำให้รถยนต์มีขนาดยาวขึ้นเกือบ 10 นิ้ว ช่วยเพิ่มความลู่ลม และลดแรงต้านอากาศเพื่อทำความเร็วได้ดีกว่าเดิม
Bugatti Chiron Super Sport 300+ ผลิตขึ้นมาจำนวนจำกัดเพียง 30 คันในโลก มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบเทอร์โบ 4 ลูก ความจุ 8 ลิตร W16 สูบ พละกำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 2.4 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 483 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีราคาอยู่ที่ $3.9 ล้านเหรียญ
รถ Hypercar อันดับที่ 4 : Bugatti Bolide
ภาพจาก Bugatti
หลังจากที่ Bugatti ได้ปล่อยรุ่น Chiron Super Sport 300+ ออกไปในปี 2019 พวกเขาก็ได้ซุ่มพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ที่สามารถทำลายสถิติเดิมของพวกเขาที่ 483 กิโลเมตร/ชั่วโมง ดังนั้นจึงกลายมาเป็น Hypercar ที่เร็วที่สุดในโลกปี 2022 อันดับที่ 4 ที่ชื่อว่า Bugatti Bolide
โดย Hypercar รุ่นนี้มีจุดประสงค์คือการทำการทดลองเพื่อเก็บข้อมูล (Experiment) ที่มาชื่อรุ่นมาจากคำในภาษาฝรั่งเศสว่า “Le bolide” ที่แปลว่า “รถแข่ง” เพราะ Bugatti ออกแบบ Hypercar คันนี้มาเพื่อลงสนามแข่งโดยเฉพาะ
Bugatti Bolide ถูกผลิตขึ้นเพียง 40 คันในโลก มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบเทอร์โบ 4 ลูก ตัวเดียวกับซีรีส์ Chiron แต่ถูกปรับแต่งให้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น ความจุ 8 ลิตร W16 สูบ พละกำลัง 1,825 แรงม้า มีแรงบิดที่ 1,364 ปอนด์/ฟุต เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 2.17 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 498 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีราคาอยู่ที่ $4.7 ล้านเหรียญ
รถ Hypercar อันดับที่ 3 : Hennessey Venom F5
ภาพจาก Hennessey
Hypercar ที่เร็วที่สุดในโลกปี 2022 อันดับที่ 3 ได้แก่ Hennessey Venom F5 ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพายุ F5 ที่มีความรุนแรงที่สุด (ความเร็ว 420 – 512 กิโลเมตร/ชั่วโมง) Hennessey จึงได้พัฒนารถยนต์โดยใช้ไอเดียจากความเร็วของพายุลูกนี้เป็นที่ตั้ง ทำให้เกิดรถยนต์รุ่น Hennessey Venom F5 ขึ้นมาในปี 2020
Hennessey Venom F5 ประกอบขึ้นโดยใช้วัสดุ Carbon-fiber แทบทั้งคัน รวมถึงมีการใช้ Active aerodynamics เป็นครั้งแรกของ Hennessey เพื่อลดการใช้น้ำมัน และเพิ่มสมรรถนะความเร็วได้อย่างอัจฉริยะ รวมถึงมีดีไซน์ห้องโดยสารที่กว้างขวาง สามารถรองรับนักกีฬา NFL สูง 200 เซนติเมตรได้สบาย ๆ
Hennessey Venom F5 ถูกผลิตขึ้นเพียง 24 คัน มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ ความจุ 7.4 ลิตร V8 สูบ พละกำลังเกือบ 2,000 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลาน้อยกว่า 2 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 484 กิโลเมตร/ชั่วโมง (เทียบเท่ากับความเร็วของพายุ F5) มีราคาอยู่ที่ $1.6 ล้านเหรียญ
รถ Hypercar อันดับที่ 2 : Koenigsegg Jesko Absolut
ภาพจาก BangkokSupercar
Hypercar ที่เร็วที่สุดในโลกปี 2022 อันดับที่ 2 ได้แก่ Koenigsegg Jesko Absolut รถยนต์สัญชาติสวีเดน ที่ได้นำเครื่องยนต์จากซีรีส์ Agera RS มาปรับแต่งใหม่ให้มีการควบคุมที่แม่นยำมากกว่าเดิม รวมถึงเพิ่มหลักพลศาสตร์เข้ากับตัวรถเพื่อให้รับกับทิศทางลม ลดแรงต้านอากาศ รวมถึงลดน้ำหนักลงเพื่อเร่งสมรรถนะให้สูงสุดเท่าที่ Koenigsegg เคยได้ทำมา
Koenigsegg Jesko Absolut มีระบบปรับอากาศภายในรถยนต์หลายรูปแบบ มีหน้าจอระบบสัมผัส SmartCluster ที่ใช้ควบคุมการเชื่อมต่อภายในรถทั้งหมด และมีพวงมาลัย SmartWheel ที่ประกอบด้วยหน้าจอสัมผัสเล็ก ๆ 2 ตัว ที่สามารถปรับโหมดการขับรถ รับ-วางโทรศัพท์ และปรับระดับเสียงเพลงในรถ พร้อมสั่นตอบรับด้วย Haptic Feedback เมื่อสั่งการเสร็จ
Koenigsegg Jesko Absolut ผลิตขึ้นเป็นจำนวน 125 คัน มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบคู่แบบ Aluminium ความจุ V8 ที่เป็นลูกสูบที่เบาที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนักเพียง 12.5 กิโลกรัม พละกำลัง 1,280 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลา 2.6 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 531 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีราคาอยู่ที่ $3.4 ล้านเหรียญ
รถ Hypercar อันดับที่ 1 : SSC Tuatara
มาถึงอันดับที่ 1 ของ Hypercar ที่เร็วสุดในโลกประจำปี 2022 ได้แก่ SSC Tuatara การันตีความเร็วด้วยการยอมรับจากหลายสำนักถึง 2 ปีติดต่อกัน (2021-2022) โดย SSC Tuatara เป็นสุดยอด Hypercar ที่ผลิตขึ้นโดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำยุคที่สุดในทุก ๆ ด้าน รวมถึงการดีไซน์รับหลักพลศาสตร์ที่อิงมาจากอุตสาหกรรมอวกาศ ทำให้ SSC Tuatara เป็นหนึ่งในรถที่มีสมรรถนะรอบด้านสูงที่สุดในโลก
ชื่อรุ่น SSC Tuatara มีที่มาจากสัตว์เลื้อยคลานที่ชื่อว่า Tuatara ที่เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มี ‘พัฒนาการไวที่สุดในโลก’ การตกแต่งและอุปกรณ์ภายในรถจะมีหน้าจอระบบสัมผัสเพื่อใช้ควบคุมแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง สามารถรองรับบุคคลที่มีความสูงได้ถึง 200 เซนติเมตร และมีการใช้ระบบกล้อง Digital แทนกระจกมองข้างซ้าย-ขวาแบบดั้งเดิม
SSC Tuatara ผลิตขึ้นเป็นจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ ความจุ 5.9 ลิตร V8 สูบ พละกำลัง 1,750 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลา 2.5 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 532.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีราคาอยู่ที่ $1.9 ล้านเหรียญ
ใครว่าการขับรถ Hypercar เป็นเรื่องไกลตัว มาลองสัมผัสความเร็วเร้าใจได้แล้วตอนนี้ กับ Prime Cars Rental เท่านั้น
มาพบกับความโฉบเฉี่ยวเหนือระดับ ด้วยความเร็วไม่เป็นสองรองใคร กับรถ Supercar แบรนด์ดังระดับโลกหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น BMW Porsche Mercedes-Benz หรือ Lamborghini ที่จะมาช่วยปลดปล่อยอิสระภาพในการขับขี่ให้กับคุณได้อย่างเต็มเปี่ยม เต็มประสิทธิภาพ และพร้อมเป็นเพื่อนรู้ใจในทุกเส้นทางของคุณ ด้วยขั้นตอนการจองเช่ารถที่ง่ายดาย ไม่ต้องใช้เอกสารเยอะ เพียงสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว คุณก็สามารถพบกับความเหนือระดับของการขับขี่ได้ทันที
สัมผัสประสบการณ์ความเร็วที่เหนือไปอีกระดับ กับรถ Supercar ตัวท็อป ไมล์น้อยได้ที่เบอร์ 081-954-2451 หรือ ติดต่อออนไลน์ที่ @Prime Cars Rental