ปฏิเสธไม่ได้ว่าแต่ไหนแต่ไรมา Super Car ไม่ใช่รถยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความประหยัด ไม่ว่าจะทั้งราคาของตัวรถเอง และราคาเชื้อเพลิงที่เราป้อนเข้าไปในถังของรถหรูคันเก่งในแต่ละวัน ต้องยอมรับว่าไม่ใช่น้อยๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ซูเปอร์คาร์ค่ายต่างๆ นั้นโนสนโนแคร์ต่อโลกใบนี้ เพราะในท้ายที่สุด แต่ละค่ายต่างก็คลอด รถยนต์ไฟฟ้า และ รถไฮบริด ออกมาเพื่อเอาใจสิงห์สนามนักขับสายกรีน Prime Cars Rental รวบรวมคันเด็ดๆ มาไว้ให้ 5 ยี่ห้อด้วยกัน ใครสนใจรุ่นไหน อย่าลืมติดตามกันต่อไปล่ะ
BMW i8 รถไฮบริดแห่งอนาคต ที่ใช้ได้จริงในปัจจุบัน
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง: 47.6 กิโลเมตร / ลิตร
ระดับการปล่อย CO2 49 กรัม / กิโลเมตร
แม้ว่าจะไม่ใช่รถสปอร์ตที่แรงที่สุด เพราะมีอัตราเร่งสูงสุดแค่ 120 กิโลเมตร / ชั่วโมง เทียบกับซูเปอร์คาร์หรือรถสปอร์ตคันอื่นๆ ที่อัตราเร่งสูงถึง 300 กิโลเมตร / ชั่วโมง (หรือเทียบเท่า) แต่ความหล่อสไตล์อนาคตของ BMW i8 นั้นหาไม่ได้ที่ไหน โดยเฉพาะประตูปีกนกให้ความรู้สึกล้ำยุคสไตล์รถยนต์ไฟฟ้า และนวัตกรรมช่องลมที่มาทดแทนระบบอากาศพลศาสตร์ในรถยนต์ปกติ โดยมีลักษณะเป็นอุโมงค์แนบตัวถังด้านข้างรถยนต์ ถูกออกแบบโดยหลักการ Layering Design Principles ช่วยให้กระแสลมไหลผ่านได้
สำหรับการขับขี่ก็ไม่ทิ้งกลิ่นอายรถสปอร์ต เพราะมีทั้งโหมดหลักสำหรับขับขี่ในเมืองอย่างโหมด Comfort เป็นโหมดที่สามารถขับเคลื่อนไดด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวจนถึงความเร็วที่ 60 กิโลเมตร / ชั่วโมง และโหมด Sport ไว้ให้ได้สนุกกับสมรรถนะของรถอย่างเต็มที่เพราะเป็นระบบที่มีการผสานหน้าที่กันอย่างดีเยี่ยมระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 3 สูบ ให้ขุมพลังเต็มที่ถึง 357 แรงม้า ให้ฟีลยานอวกาศเข้ากับดีไซน์ของตัวรถ

นอกจากนั้น ค่ายใบพัดยังติดตั้งโหมด Eco Pro เพื่อเอาใจสายกรีนตัวจริง โดยปรับตั้งค่าการทำงานของเครื่องยนต์ การตอบสนอง ระบบปรับอากาศให้เน้นความประหยัดมากที่สุด สามารถขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าได้จนถึงความเร็ว 60 กิโลเมตร / ชั่วโมง แต่เมื่อความเร็วสูงขึ้นหรือกำลังไฟในแบตเตอรี่ต่ำเกิดกำหนด เครื่องยนต์จะทำงานเองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องปรับเปลี่ยนไปมาแบบแมนวลให้ยุ่งยาก แต่ถ้าอยากใช้พลังงานไฟฟ้าโดยไม่ต้องปล่อยไอเสียสักหยด เพียงกดปุ่ม eDrive BMWi8 จะเคลื่อนตัวด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เก๋จริงๆ
แถมท้ายด้วยความพิเศษแบบ Privilege เพราะสามารถขับ BMW i8 เข้าจอดในที่จอดรถซูเปอร์คาร์ได้ด้วยนะ
Ferrari SF90 Stradale ไฮบริดสมรรถนะสูง 1,000 แรงม้า
เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม ปี 2562 ที่ผ่านมา และมีกำหนดการจำหน่ายช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 นี้ ในราคา 1,309,000 ยูโร หรือประมาณ 46.4 ล้านบาท เห็นราคาแบบนี้ คงอยากรู้เรื่องสมรรถนะกันแล้วใช่มั้ยล่ะ
แม้ว่า Ferrari SF90 Stradale จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวที่เป็นนวัตกรรมเดียวกับรถยนต์ F1 แต่เราคงไม่สามารถพูดได้ว่า ม้าลำพองใหม่ล่าสุดคันนี้เป็น รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถไฮบริด ที่ประหยัดพลังงานและลดการปล่อยเชื้อเพลิง เพราะค่ายยังต้องคงเอกลักษณ์เรื่องความแรงตามแบบฉบับของซูเปอร์คาร์ โดยมีการใช้เครื่องยนต์ V8 ที่ดีที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าต้องสิ้นเปลืองพลังงานอย่างเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม Ferrari SF90 Stradale ก็มีโหมดการขับขี่ประหยัดพลังงานให้เลือกใช้เก๋ๆ ทั้งโหมด eDrive ที่พละกำลังของรถทั้งหมดจะมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว ปราศจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงจากเครื่องยนต์ แถมยังมีเสียงเบานุ่มเหมาะกับการขับในเมือง ส่วนโหมด Hybrid แม้จะมีการใช้เครื่องยนต์ด้วย แต่ระบบที่ติดตั้งมาจะคำนวณให้เกิดการประหยัดสูงสุด
Lamborghini Sian ซูเปอร์คาร์ไฮบริด ผลิตแค่ 63 คัน
ยังไม่ทันเปิดขาย แต่ด้วยจำนวนผลิตที่น้อยนิด และขุมพลังที่ถือว่าดีที่สุดตั้งแต่ Lamborghini ผลิตมา จึงทำให้ Lamborghini Sian นั้น Sold Out หมดแล้ว!

ขุมพลังของ Lamborghini Sian มาจากเครื่องยนต์เบนซิน 6.5 ลิตร V12 ที่ให้กำลัง 784 แรงม้า แต่มีตัวช่วยคือ ระบบ Hybrid ที่มีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่สร้างกำลังเพิ่มให้อีก 34 แรงม้า โดยใช้แบตเตอรี่ lithium-ion เป็นตัวจ่ายพลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าอีกที
Porsche Taycan รถยนต์ไฟฟ้า จุดเริ่มต้นความสมบูรณ์แบบ
เป็นที่รู้กันดีว่าในอนาคต สัดส่วนของความต้องการในตัวรถยนต์ไฟฟ้าย่อมมากขึ้น เพราะกระแสรักษ์โลกและเชื้อเพลิงที่อาจแพงขึ้นเพราะมีจำนวนลดน้อยถอยลงไป ค่ายรถสปอร์ตสุดหรูอย่างปอร์เช่จึงเร่งพัฒนาและถอยเจ้ากบสายฟ้า Porsche Taycan ออกมา โดยมุ่งหวังให้เป็นรถที่แฟนๆ ทุกคนสามารถซื้อไปขับกันได้จริงๆ ลืมเรื่อง Limited Edition ไปได้เลย

จุดเด่นของ Porsche Taycan คือขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanently Excited Synchronous 2 ตัว โดยให้กำลังสูงสุด 761 แรงม้าในรุ่นท็อป Turbo S และแรงบิดสูงสุด 1,050 นิวตันเมตร และอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 2.8 วินาที เท่านั้น โดยทั้งหมดนี้ ไม่ได้ใช้น้ำมันเลยสักหยด
นอกจากนั้น Porsche ยังโดดเด่นในฐานะ รถยนต์ไฟฟ้า ที่มีจอทัชสกรีนสั่งงานภายในรถที่สะดวกและหลากหลายมากกว่า 1 จอ เรียกว่าเอาใจลูกค้าในอนาคตที่เคยชินกับเทคโนโลยีนี้มากกว่าการใช้งานปุ่มกดที่มีใน Porsche รุ่นเก่า
Tesla เราคือผู้บุกเบิก รถยนต์ไฟฟ้า และเราจะไม่หยุดยั้ง
ที่สุดของยานยนต์แห่งอนาคต คงหนีไม่พ้นค่าย Tesla ของเจ้าพ่อ Elon Musk ที่มีให้เลือกทั้ง Model 3, S, X และ Y แต่ถ้าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่แรงไม่น้อยหน้าสปอร์ตเครื่องยนต์เบนซิน คงหนีไม่พ้น Tesla Model S P100D

รถ EV SUV 7 ที่นั่งคันนี้ สุดหรูคันนี้ สามารถทำความเร็ว 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 2.5 วินาที นอกจากเร็วแล้วยังวิ่งได้ยาวนาน เพราะติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่ 100 กิโลวัตต์ วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 613 กิโลเมตร (จากกรุงเทพฯ – สุราษฎ์ธานี)
ลองสัมผัสรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทย กับ Prime Cars Rental
แม้ตอนนี้ Prime Cars Rental จะยังไม่มีรถยนต์ EV แบบเต็มรูปแบบให้เช่า แต่คุณสามารถชิมลางกับรถยนต์ไฮบริดแห่งอนาคต BMW i8 สภาพใหม่ ไมล์น้อย ได้แล้ววันนี้ เรารับประกันความสนุกในการขับขี่ ที่มาพร้อมกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ครอบคลุมทุกสถานการณ์ พิเศษ! บริการเดลิเวอรีส่งรถถึงที่หมายฟรีไม่มีบวกเพิ่ม เพียงโทร. 081-954-2451 หรือ LINE @primecarsrental