หากจะเอ่ยถึงรถยนต์แบรนด์ยักษ์สัญชาติเยอรมัน คงไม่มีใครไม่รู้จัก Mercedes-Benz แบรนด์รถยนต์สุดหรูที่ครั้งหนึ่งเคยถูกตีตราว่า “ผู้ที่ขับเบนซ์คือผู้ที่มีอันจะกิน” เป็นรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความพรีเมี่ยม ทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่เรียบหรู และสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ยิ่ง รถเปิดประทุน Mercedes-Benz ก็ไม่ธรรมดา
Mercedes-Benz แบรนด์รถยนต์ชั้นนำตลอดกาล ถือกำเนิดขึ้นในปี 1926 จากการจับมือกันระหว่างสองผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกในสมัยนั้น นั่นคือโกท์ลีป ไดม์เลอร์ (Gottlieb Diamler) ผู้ผลิตรถยนต์แบบสี่ล้อคันแรกของโลกและคาร์ล เบนซ์ (Carl Benz) นักประดิษฐ์คนสำคัญในยุคบุกเบิกอุตสาหกรรรมยานยนต์
ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับประวัติศาสตร์ หรือตำนาน รถเปิดประทุน Mercedes-Benz SL Model เป็นชื่อสายการผลิตรถยนต์ประเภทหรูหราสมรรถนะสูงเริ่มออกสู่ตลาดในปี 1954 โดยที่มาของชื่อรุ่น SL นั่นย่อมาจาก “Sport Leicht” ที่หมายถึง “สปอร์ต น้ำหนักเบา” สื่อถึงลักษณะของรถยนต์หรูในคอลเลกชั่นนี้นั่นเอง
จุดเริ่มต้นของ รถเปิดประทุน Mercedes-Benz
Mercedes-Benz 300 SL (W198) รถยนต์เปิดประทุนรุ่นแรกถูกเผยโฉมออกสู่สายตาสาธารณชนในปี 1957 จุดเด่นที่สำคัญที่เป็นที่มาของชื่อเรียก Gull-wing คือลักษณะการเปิดของประตูมีความคล้ายคลึงกับท่าทางของนกนางนวลที่กำลังสยายปีก สำหรับเครื่องยนต์สปอร์ตสุดคลาสสิคคันนี้ใช้เครื่องยนต์ระบบหัวฉีดหกสูบแถวเรียง 3.0 ลิตรให้กำลัง 220 แรงม้าที่ 5800 รอบต่อนาทีและ 279 นิวตันเมตร แรงบิดที่ 4900 รอบต่อนาทีทำเวลาอยู่ที่ 0-100 กิโลเมตรประมาณ 8.8 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะเร็วและแรงมาก ยังไม่ค่อยมีแบรนด์รถยนต์แบรนด์ไหนทำออกมามากนัก
“The new SL-Class” Mercedes-Benz SL 500 BlueEFFICIENCY Sport AMG Roadster
รุ่นนี้คือสปอร์ตเปิดประทุนเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของเบนซ์เป็นการสานต่อความสำเร็จและก้าวสู่โลกยานยนต์แห่งอนาคตในสมัยนั้น โดยการเลือกใช้วัสดุแบบอลูมิเนียมเป็นโครงสร้างตัวถังรถเกือบทั้งคัน และมีน้ำหนักเบากว่า SL เจนเนอเรชั่นก่อนหน้านี้ SL 500 มากับเครื่องยนต์ BlueDIRECT V8 เทอร์โบคู่ ความจุ 4,663 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 320 กิโลวัตต์ (435 แรงม้า) เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 12% แต่อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกลับลดลงถึง 22% หรือประมาณ 10.9 กม./ลิตร ขณะเดียวกันแรงบิดยังเพิ่มขึ้นจาก 54 กก.-ม. เป็น 71.3 กก.-ม. ด้วย คิดเป็นอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นถึง 32% อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุดประมาณ 250 กม./ชม.
แนะนำรถเปิดประทุนรุ่นล่าสุด จาก Mercedes-Benz
สำหรับเบนซ์เปิดประทุนรุ่นล่าสุดของปี 2020 อย่าง Mercedes-Benz SL-Class R231 ด้วยตัวถังอะลูมิเนียมอัลลอยทำให้ Mercedes-Benz SLใหม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นพร้อมกับพลังในการขับเคลื่อนในเวลาเดียวกัน โครงสร้างน้ำหนักเบายังยกระดับสมรรถนะให้สูงขึ้นขณะที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าไอเสีย เป็นรถยนต์ยุคใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยังมีประสิทธิภาพสูงในคันเดียวกัน
สำหรับเครื่องยนต์ของ Mercedes Benz SL Class มีมาให้เลือกใช้งานถึง 4 ขุมพลัง คือ
- SL450 EQ Boost เครื่องยนต์แบบเบนซิน 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร ให้พละกำลัง 365 แรงม้า มีมอเตอร์สตาร์ท ISG ที่เพิ่มพละกำลังให้อีก 22 แรงม้า
- SL53 เครื่องยนต์แบบเบนซิน 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร Mild Hybrid ให้พละกำลัง 430 แรงม้า มีการทำงานร่วมกับมอเตอร์สตาร์ท ISG ที่ให้กำลังเพิ่มมาอีก 22 แรงม้า
- SL500 EQ Boost เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 2.0 ลิตร เป็นเทอร์โบชาร์จ ให้พละกำลัง 430 แรงม้า
- SL63 เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร เป็นเทอร์โบชาร์จ ให้พละกำลัง 600 แรงม้า ใช้งานร่วมกับมอเตอร์สตาร์ท ISG ที่ให้กำลังเพิ่มมาอีก 30 แรงม้า
- ทุกเครื่องยนต์ทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด และในรุ่นของ AMG มีการติดตั้งตัว Speed Shift ที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วติดมาด้วย ช่วยเพิ่มความเร็ว แรง ให้กับการขับขี่
สรุป รถเปิดประทุน Mercedes-Benz ยิ่งนานวันยิ่งคลาสสิก
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ รถเปิดประทุน Mercedes-Benz จากจุดเริ่มต้นมาจนถึงทุกวันนี้ ต้องบอกเลยว่าไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี รถยนต์จากแบรนด์นี้ก็ยังคงสร้างความสนใจให้กับกลุ่มคนรักรถยนต์แบรนด์หรูแบบเปิดประทุนได้อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ไม่ว่าจะผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมากี่รุ่น ก็จะได้รับความนิยมอยู่เสมอ หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่สนใจใน รถยนต์ Mercedes-Benz หลาย ๆ รุ่น และอยากลองเช่ามาขับดูสักครั้ง สามารถใช้ บริการเช่ารถหรู จาก Prime cars rental ที่หมายเลข 081-954-2451 หรือ LINE @primecarsrental เรามีรถหรูคุณภาพดีให้คุณเลือกสรรมากมาย ให้คุณได้เช่ารถยนต์หรูประสิทธิภาพสูงไปใช้งานได้อย่างมั่นใจ