หลายคนน่าจะเคยสังเกตเห็นตัวอักษรภาษาอังกฤษท้าย รถ Mercedes Benz กันมาบ้างแล้ว แต่คุณรู้หรือไม่ว่าตัวอักษรเหล่านั้นหมายถึงชื่อ Model ของรถ Mercedes Benz ในรุ่นต่าง ๆ ซึ่งแต่ละชื่อจะมีความหมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น S-Class, AMG, A-Class, E-Class, SLK, CLS, SL และอื่น ๆ
ถ้าหากคุณเข้าใจความหมายของตัวอักษรเหล่านี้ ก็จะสามารถเลือกใช้รถ Mercedes Benz ได้ตรงตามจุดประสงค์มากยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน ซึ่งสำหรับการตั้งชื่อรุ่น Models รถ Mercedes Benz นั้นก็มีหลายรุ่นเลยทีเดียวที่ได้มีการเปลี่ยนชื่อในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่น Mercedes-Benz ML ที่กลายมาเป็น Mercedes-Benz GLE หรือ Mercedes-Benz GL ที่กลายมาเป็น Mercedes-Benz GLS
ในบทความนี้ Prime Cars Rental จะพาทุกคนมาถอดรหัสหาความหมายของตัวอักษร Models ท้ายรถ Mercedes Benz แต่ละรุ่นเอง ว่ามีความหมายอย่างไรบ้าง
ประวัติความเป็นมาของการตั้งชื่อท้ายรถ Mercedes Benz ด้วยตัวอักษร Models
ในอดีตเชื่อว่าใครหลายคนอาจจะเคยสับสนกับการเรียกชื่อรุ่น Models ของรถ Mercedes Benz อย่างแน่นอน เพราะมีรถหลายรุ่นที่มาพร้อมกับตัวอักษรภาษาอังกฤษมากมายที่ท้ายรถ Mercedes Benz จึงได้มีการปฏิวัติจัดระบบการตั้งชื่อใหม่
ในปี 2015 บริษัท Mercedes Benz ได้มีการปฏิวัติจัดระบบการตั้งชื่อรุ่น Models ใหม่ทั้งหมด เพื่อความเป็นระเบียบมากขึ้น ให้ผู้ขับขี่รถเบนซ์ทุกคนเข้าใจ และจดจำความหมายของรถเบนซ์แต่ละรุ่นได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งระบบใหม่ที่ Mercedes Benz จัดออกมามีทั้งหมด 4 Series ด้วยกันคือ Core Model Series, Crossover / SUV / Off-road, 4-Door Coupé และ Roadster
ภาพจาก mbhuntington
สำหรับรถ Mercedes Benz จะมี Core Model Series หลัก ๆ ทั้งหมด 5 รุ่น ด้วยกัน เรียงจากขนาดเล็กไปใหญ่ ประกอบไปด้วย A-Class, B-Class, C-Class, E-Class และ S-Class ตามลำดับ โดยที่ตัวอักษรภาษาอังกฤษจาก Core Model Series เหล่านี้จะไปประกอบอยู่ในทุก ๆ รุ่นของรถ Mercedes Benz
ถัดมาในส่วนรถเบนซ์ Crossover / SUV / Off-road หรือรถยนต์อเนกประสงค์ แบ่งออกเป็น 5 รุ่น เรียงลำดับจากขนาดเล็กไปใหญ่ ได้แก่ GLA-Class, GLC-Class (ใช้แทน GLK-Class ชื่อเดิม), GLE-Class (ใช้แทน ML-Class), GLS-Class (ใช้แทน GL-Class) และ G-Class
ในด้านของรถสปอร์ต Mercedes Benz ก็ได้แบ่งรุ่น 4 Door-Coupé หรือคูเป้ 4 ประตู ออกมาโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันนี้มีด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ CLA-Class และ CLS-Class และสุดท้ายรถเบนซ์สปอร์ต Roadster หรือรถสปอร์ตเปิดประทุน มี 2 รุ่นด้วยกัน คือ SLC-Class (ใช้แทน SLK-Class) และ SL-Class
นอกจากชื่อรุ่น Series ต่าง ๆ แล้ว Mercedes Benz ยังมีการตั้งชื่อระบบพลังงานใหม่ให้ง่ายกว่าเดิมโดยใช้ตัวอักษร ดังนี้
- รุ่นระบบแก๊ส จากเดิมที่รถ Mercedes Benz เคยใช้ตัวอักษระ CNG จะใช้ตัว c แทน
- รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เดิมจากที่เคยชื่อ Bluetec และ CDI จะเปลี่ยนเป็นตัวอักษร d
- รุ่นระบบขับเคลื่อน Hybrid เปลี่ยนจาก Bluetec Hybrid หรือ Hybrid เป็นตัวอักษร h
- รุ่น Plug-in Hybrid และขับเคลื่อนไฟฟ้า จะใช้ตัวอักษร e
- รุ่นพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง จะใช้ตัวอักษร f ตรงท้ายรถ Mercedes Benz
- รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ รถ Mercedes Benz จะยังคงใช้ชื่อเดิม คือ 4MATIC
ภาพจาก motor1
ซึ่งตอนนี้เราก็ได้เห็นภาพรวมของชื่อรุ่นรถในแต่ละ Series ไปแล้ว ในพาร์ทต่อไปเราก็จะพาทุกคนไปเจาะลึกกันมากขึ้นว่าตัวอักษร Models ท้ายรถ Mercedes Benz แต่ละรุ่นว่ามีความหมายอย่างไรบ้าง?
ความหมายของตัวอักษรท้ายรถ Mercedes Benz แต่ละรุ่น มีความหมายอย่างไรบ้าง
A-Class – Compact Car
สำหรับรถ Mercedes Benz A-Class เป็นรถยนต์คอมแพ็ค (Compact Car) น้องเล็กของค่าย ขนาดกะทัดรัดที่ Mercedes Benz ได้สร้างมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1977
โดยปัจจุบันมีรถ Mercedes Benz The New A-Class ใน Generation ที่ 4 รุ่น A200 AMG Dynamic ที่เปิดตัวในปี 2019 และล่าสุดรุ่น A200 Progressive ที่เพิ่งคลอดในปี 2021 ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความเท่ ปราดเปรียว แต่เรียบง่าย
ภาพจาก autolifethailand
C-Class – รถเก๋งขนาดกลาง
ถ้าพูดถึงรถ Mercedes Benz แล้ว อีกหนึ่งรุ่นที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ และได้รับความนิยมจนเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด คือ รถเบนซ์ C-Class เพราะเป็นรถเบนซ์ที่ขนาดกลาง ดูภูมิฐานกว่าตระกูล A-Class อีกทั้งยังมีพละกำลัง และอัตราเร่งที่สูงกว่าอีกด้วย เหมาะสำหรับทั้งวัยหนุ่มสาว คนโสด คนมีครอบครัว ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่
ปัจจุบัน Mercedes Benz ได้ผลิตรถยนต์ตระกูลนี้มาจนถึง Generation ที่ 4 ให้ทุกคนสามารถขับขี่ไปด้วยความสนุกกับสไตล์ Saloon ในรุ่น C220d Avantgarde, C300e Avantgarde และ C300e AMG Dynamic ซึ่งตัวหลังให้กำลังสูงสุดถึง 211 แรงม้าเลยทีเดียว
Mercedes Benz C300e AMG Dynamic
E-Class – รถเก๋งขนาดกลางและขนาดใหญ่
รถ Mercedes Benz E-Class เป็นรถ Mid-Size ที่หรูหรากว่าตระกูล C-Class ภายในมาพร้อมกับที่นั่งโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบาย ช่วงล่างนุ่มนวล ภายนอกดีไซน์ได้สง่างาม เหมาะสำหรับการเป็นรถประจำตำแหน่งของผู้บริหาร หรือรถครอบครัวสักคัน
ถ้าหากคุณยังไม่รู้ว่าจะเลือกรถ Mercedes Benz E-Class รุ่นไหนดี ขอแนะนำ Mercedes Benz E 350e Plugin Hybrid AMG รถเบนซ์ Generation ที่ 5 มาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงาน ปล่อยมลพิษต่ำ และฟีเจอร์ใหม่ Mercedes Me Connect เปิดประสบการณ์ใหม่ เชื่อมโยงผู้ขับขี่กับรถยนต์ เพิ่มความไร้รอยต่อให้สะดวกสบายมากขึ้น
Mercedes Benz E 350e Plugin Hybrid AMG
S-Class – รถหรูคันใหญ่
S-Class เป็นรถ Mercedes Benz ที่มีขนาดใหญ่สุด ราคาแพงที่สุด ให้ความสบายเหนือระดับ บวกกับมีระบบความปลอดภัยรอบคัน อย่าง Mercedes-Benz S560 e AMG ที่ให้คุณสามารถขับรถเบนซ์ S-Class ด้วยความนุ่มนวล เงียบสนิท แต่พละกำลังแรงสุด ๆ เทียบเท่ากับ Supercar ได้เลย
ด้วยเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V6 Twin Turbo ให้กำลังสูงสุด 367 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า EQ Generation ที่ 3 ซึ่งเพิ่มกำลังจาก 8.5 kwH มาเป็น 13.5 kwH และเพิ่ม Range ของการวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน จากเดิมประมาณ 20 กิโลเมตร มาเป็นมากกว่า 40 กิโลเมตร ให้กำลังในส่วนของ มอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว 122 แรงม้ากับแรงบิดอีก 440 นิวตัน-เมตร
เมื่อจับคู่กันแล้ว จึงทำให้รถคันนี้มีพละกำลังรวมมากถึง 498 แรงม้ากับแรงบิดกว่า 600 นิวตันเมตร ถ้าคุณอยากสัมผัสประสบการณ์การขับเคลื่อนด้วยความนุ่มนวล เงียบสนิท แต่แรงเกือบ 500 แรงม้า รถเบนซ์ S-Class คันนี้ คือคันที่คุณตามหา!
Mercedes-Benz S560 e AMG
CLS – รถ Mercedes Benz Coupé 4 ประตู
CLS-Class รถ Mercedes Benz คลาสใหม่ในตลาดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรถสปอร์ต Coupé 4 ประตู ทั้งหรู เร็ว แรง ประหยัด และสวยบาดตาบาดใจ จึงเป็นรถยนต์ที่ใคร ๆ ก็อยากมาลิ้มลองสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ดูสักครั้ง
ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า E-Class แต่เล็กกว่า S-Class มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Twin Turbo Diesel 245 แรงม้า กับแรงบิดมหาศาล 500 นิวตัน-เมตร ที่ทั้งแรงและประหยัด รถคันนี้จึงเป็นรถที่ Mercedes-Benz ทำออกมาเพื่อให้มีรถยนต์ที่รูปทรงสปอร์ต แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา
สำหรับใครที่เป็นสายสปอร์ต รุ่นที่คุณไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เช่น รถ Mercedes Benz CLS 300d AMG Premium รถสปอร์ต Coupé Sedan ที่ต้องยอมรับว่าสวยที่สุดเท่าที่เคยมีมา หรือตัวล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปปีที่แล้ว อย่าง Mercedes-Benz CLS 220d AMG Premium สวยขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว
Mercedes-Benz CLS 300d AMG Premium
SL – รถ Mercedes Benz สปอร์ตระดับ Hi-End
SL-Class ที่สุดของรถ Mercedes Benz สปอร์ตเปิดประทุน ที่เหมาะทั้งการขับกินลมชมวิว หรือขับประลองความเร็วพอหอมปากหอมคอ กับ Mercedes-Benz SLC 300 AMG ที่แม้รุ่นนี้ หลายคนบอกว่าดูเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า แต่ไม่ใช่เลย
เพราะภายในรถ Mercedes Benz คันนี้ยกเครื่องใหม่ทั้งเซ็ต พร้อมที่จะพาคุณทะยานจาก 0-100 km/h ภายในเวลาเพียง 5.8 วินาที กับ Top Speed กว่า 250 km/h ขาดอีกแค่น้อยนิดก็สามารถเทียบเท่า Supercar ได้แบบพอดิบพอดี และยังสามารถขับขี่ผ่านเกียร์ Torque Converter 9 Speed ที่เปลี่ยนเกียร์ได้ฉับไว ต่อเนื่อง สมูทนุ่มนวลสุด ๆ หากใครได้ลองสัมผัสเหยียบคันเร่งแล้วล่ะก็ จะไม่อยากก้าวเท้าออกอีกเลย
Mercedes-Benz SLC 300 AMG
V-Class – Multi Function Box Car
รถ Mercedes Benz ที่เป็นรถตู้ Premium Van นั้น เราจะรู้จักกันในนาม V-Class ซึ่งคุณสมบัติพื้นฐานดูเผิน ๆ อาจเหมือนกับรถแวนหรือรถตู้ทั่วไป แต่สิ่งที่ผู้ขับขี่มักจะได้รับจากรถเบนซ์ V-Class คือ ความนุ่มนวล และความหนักแน่นของช่วงล่าง เหมาะกับการขับขี่ทางไกลแบบ Long Cruising ที่เยี่ยมยอด
โดยรุ่นล่าสุดรถ Mercedes Benz V220d ปี 2022 เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบเดินทางไปผ่อนคลายในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือว่าจะเป็นนักผจญภัยในยามว่าง ที่ชอบสัมผัสประสบการณ์สุดเหวี่ยงกว่าที่เคย และช่วยให้ผู้โดยสารไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างสะดวกสบาย และมีสไตล์แบบที่รถรุ่นอื่นไม่สามารถให้คุณได้มาก่อน
Mercedes-Benz V220d / ภาพจาก 9carthai
AMG – รถ Mercedes Benz สมรรถนะสูง
ถ้าหากคุณเห็นตัวอักษร AMG แปะอยู่ที่ท้ายรถ Mercedes Benz คันใด ให้คุณรู้ไว้เลยว่ารถเบนซ์คันนั้นเป็นรถที่มีสมรรถนะสูง และแรงกว่ารถเบนซ์ทั่วไปแน่นอน
อย่างรถ Mercedes Benz E350e Plugin Hybrid AMG รถยนต์ Mid-Size Sedan ขนาดกลางค่อนใหญ่ รุ่นท็อปสุดของรุ่น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Turbo 211 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร ซึ่งหากรวมกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้กำลังมากถึง 286 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 km/h ในเวลาเพียง 6.2 วินาที เท่านั้น
หรือว่าจะเป็นรถ Mercedes Benz E-Class E300e AMG ปี 2022 อีหนึ่งรุ่นท็อป มาในรหัสตัวถัง W213 Facelift หากคุณต้องการรถยนต์นั่งที่นั่งสบาย เงียบสนิท นุ่มนวล แต่เครื่องยนต์แรงทรงพลัง และประหยัดอย่างมหาศาลในเวลาเดียวกัน เราอยากให้คุณลองสัมผัสรถเบนซ์ E Class E300e AMG คันนี้ดู
Mercedes Benz E-Class E300e AMG ปี 2022
G-Class – รถ Mercedes Benz Off-road / SUV
ถ้าหากพูดถึงรถจากค่ายดาวสามแฉกแล้ว หลายคนก็คงจะนึกถึงแต่รถ Mercedes Benz ที่เป็นรถเก๋งโดดเด่นในเรื่องของความภูมิฐาน หรือรถสปอร์ตที่เต็มไปด้วยความหรูหรา โฉบเฉี่ยว แข็งแรงเป็นหลัก อาจจะไม่ค่อยมีใครนึกถึงรถเบนซ์ที่เป็นรถ Off-road / SUV สักเท่าไร
แต่ Mercedes Benz ก็มีรถแนว Off-road / SUV รถอเนกประสงค์เหมาะสำหรับครอบครัวที่เอาไว้ขับในเมือง หรือการออกทริปเที่ยวเหมือนกัน ซึ่ง G-Class ถือว่าเป็นรถเบนซ์ที่ขึ้นชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเภทนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ ขนของได้เยอะ แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งความเร็วแรงแบบสปอร์ต ขับคล่องตัว จะขับฉายเดี่ยวก็ได้ หรือขับกับเพื่อนหรือคนรู้ใจนั่งข้าง ๆ ก็ดี
ด้วยรถ Mercedes Benz GLA 200 AMG ที่ทั้งลุยและมีสไตล์ มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร Turbo 156 แรงม้า / 250 นิวตันเมตร หรือ Mercedes Benz GLS 350 d AMG ที่สุดของยานยนต์สไตล์ SUV จากค่ายนี้ ทั้งห้องโดยสารใหญ่ กว้างขวาง นั่งสบาย แต่ยังสนุกได้ด้วยฟังก์ชันการขับถึง 5 แบบ
Mercedes Benz GLA 200 AMG
สัมผัสประสบการณ์ขับขี่รถ Mercedes Benz รุ่นที่คุณชื่นชอบได้แล้วที่ Prime Cars Rental
แม้ว่ารถ Mercedes Benz บาง Models อาจจะมีราคาสูงกว่ารถเบนซ์ทั่วไป แต่แน่นอนว่าประสบการณ์ที่คุณจะได้รับกลับมาจะมีความพรีเมียมแตกต่างกันอย่างแน่นอน ทั้งความภูมิฐาน สไตล์โอ่อ่า หรูหรา โฉบเฉี่ยว เร็วแรงระดับรถสปอร์ต แต่นุ่มนวลราวกับพรมวิเศษ ขนาดเล็กกะทัดรัด หรือขนาดใหญ่นั่งสบายหากคุณอยากลองสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถ Mercedes Benz ใน Models ที่แตกต่างกัน Prime Cars Rental มีรถจากค่ายดาวสามแฉกรุ่นต่าง ๆ ที่แต่ละคันยังใหม่กริบ ไมล์น้อย พร้อมการบริการระดับพรีเมียม มอบความสะดวกสบายให้คุณในทุกขั้นตอน ทั้งให้คำปรึกษา และการจองเช่ารถหรูจบได้ง่ายไม่ต้องใช้เอกสารเยอะ จบบนสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสัมผัสสุนทรียภาพแห่งการขับขี่เหนือระดับ และลิ้มลองปะทะความแรงรถเบนซ์ได้แล้ววันนี้ โทร 081-954-2451 หรือติดต่อ LINE @primecarsrental