American Muscle Car ที่หลายๆคนชื่นชอบ แต่หากจะไปซื้อหามาขับสักครั้ง ก็อาจจะไม่คุ้มค่าการลงทุน เราขอแนะนำให้คุณลอง เช่ารถมัสแตง คันนี้ ขับโลดแล่นไปแบบชิลๆ กับรถที่มี Eye Catching ที่ดีที่สุดคันหนึ่ง
ปัจจุบันรถ Muscle Car ที่นิยมมากๆที่ America และทั่วโลกคันนี้ ได้เดินทางมาถึง Generation ที่ 6 แล้ว เรียกได้ว่า รถคันนี้ เป็นหนึ่งในความสำเร็จของ Ford ทั่วโลกเลยทีเดียว และแน่นอนว่า ราคาของรถที่จำหน่ายในเมืองไทยจะอยู่ที่ประมาณ 3.5 – 5 ล้านบาท กับรถในตำนานคันนี้
Generation ที่ 1 ของ Ford Mustang มีมาตั้งแต่ปี 1964 – 1973 จากการเปิดตัวรถในโครงการใหม่ของ Ford ในเวลานั้น โดย Generation ที่ 1 ขึ้นธรรมเนียบกลายเป็นรถคลาสสิคไปแล้ว ในเมืองไทยเองมีราคาขายมือสองกันอยู่เกิน 2 ล้าน ขนาดรถมีอายุมากกว่า 30 ปีแล้วก็ตาม ในตอนนั้นรถ Ford Mustang Gen 1 ใช้เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร 6 สูบแถวเรียง ไปจนถึงครื่องยนต์รุ่นท๊อปอย่าง Super Cobra Jet V8 7.0 ลิตร 375 แรงม้า ที่ถือได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกับรถ Supercar ในยุคนั้น
รุ่นต่อมา Generation ที่ 2 ที่ทำตลาดทั่วโลกในช่วงปี 1974 – 1978 หลังจากที่ Gen 1 เริ่มมียอดขายที่น้อยลงเรื่อยๆ เพราะจากราคาที่สูงไป เครื่องยนต์ที่ใหญ่และมีกำลังมากเกินไป (ในรุ่นท๊อป) ทำให้ Gen 2 ออกมาด้วยตัวถังที่เล็กลง เครื่องยนต์ขนาดเล็กลง เพื่อให้เป็นรถ Pony Car ที่คนทั่วๆไป สามารถหาซื้อกันมาได้ และได้ใช้เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ไปจนถึง 4.9 ลิตรที่ไม่ได้กินน้ำมันมากจนเกินไปนั่นเอง
3rd Generation ในปี 1979 – 1993 ของ Ford Mustang ได้รับการออกแบบให้มีความคลาสสิคลดลงไปจากเดิมพอสมควร และเน้นที่ความเป็นรถที่ซื้อหาง่ายมากยิ่งขึ้น ทำให้ยอดขายตกลงไปอีกครั้ง เพราะคนส่วนใหญ่เริ่มหันไปสนใจรถสปอร์ตเครื่องวางหน้าขับหน้ากันมากขึ้น เนื่องจากมีน้ำหนักที่เบาและประหยัดน้ำมันมากกว่า
Generation ที่ 4 ในปี 1993 – 2004 ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของ Ford Mustang ด้วยการออกแบบที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้ามากกว่าที่เคยมีมา และยังคงใช้การขับเคลื่อนล้อหลังเหมือนเดิมแต่ปรับปรุงให้สมรรถนะไม่แพ้รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า กับเครื่องยนต์ Cobra 390 แรงม้าที่แรงไม่ใช่เล่นๆ
Generation ที่ 5 ในปี 2005 – 2014 ถือเป็นรุ่นยอดที่นิยมที่สุดรุ่นหนึ่ง ซึ่งมีการใช้งานออกแบบให้กลับไปเป็น Ford Mustang รุ่นแรก จนคนชอบเรียกกันว่า “Retro Futurism” หรือลัทธิย้อนยุคนั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้น Ford Mustang รุ่นนี้ยังได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยม ที่มีชื่อว่า Modula 4.6 ลิตร V8 ที่ปรับปรุงมาจากเครื่อง Cobra
และสุดท้ายกับ Generation ที่ 6 กับรุ่นปัจจุบันที่คุณสามารถเช่าขับเองได้ ในเมืองไทยมีเครื่องยนต์ 2 ขนาดคือ 2.3 ลิตร Ecoboost 318 แรงม้ากับ 5.0 GT 450 แรงม้า ที่แรงมากแต่กินน้ำมันหนักมากเช่นกัน เครื่องยนต์ 2.3 Ecoboost จึงเป็นเครื่องยนต์ที่ลดขนาดแต่เพิ่มสมรรถนะเข้าไป
ต้องบอกก่อนว่ารถมัสแตง ไม่ใช่รถที่ใช้เพื่อขับในสนาม หรือเพื่อทำเวลาในโค้งได้อย่างรถสปอร์ตคันอื่นๆ ที่เป็นลักษณะ Track Focus แต่รถคันนี้ มีขนาดภายนอกที่ค่อนข้างใหญ่มาก ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ให้ลองนึกถึงรถสปอร์ต ที่มีขนาดใหญ่เท่าๆกับรถ BMW 5 Series เลย ฉะนั้นเมื่อเข้าใจตรงจุดนี้และรู้คาแรคเตอร์ของรถ จะทำให้เราขับขี่ได้อย่างสนุกมากยิ่งขึ้น
ก่อนจะขึ้นมาขับเจ้ามัสแตงคันนี้ คุณอาจจะรู้สึกว่า รถคันนี้ต้องเป็นแนว AMERICAN MUSCLE ที่หนักๆ เครื่องแรงๆแต่ก็ไม่ได้พุ่งมาก เบาะใหญ่ๆให้คนตัวใหญ่ สามารถนั่งได้อย่างสบายๆ
พอได้ลองสัมผัส ต้องบอกเลยว่ารถคันนี้ ให้ฟิลลิ่งที่แตกต่างไปจากรถทั่วไป ด้วยความที่หน้ายาวจัดมาก ภายในกว้างขวางมาก พอสตาร์ทเครื่อง ก็จะได้ยินเครื่อง 2.3 ECOBOOST คำรามขึ้นมาเบาๆ แม้จะไม่สะใจเท่าเครื่อง V8 ของรถ Supercar หลายๆคัน แต่ก็พอทำให้ฉึกยิ้มได้ไม่น้อยเลย
ช่วงล่างให้การตอบสนองที่ดี ไม่มีโยนตัว ไม่มีวอกแวกทั้งสิ้น เวลาขับคุณจะรู้สึกว่ารถค่อนข้างซับแรงกระแทกได้ดีมากๆ พอเข้าโค้ง รถจะมีอาการ Roll ให้คุณรู้สึกอยู่บ้างว่ารถคันนี้ไม่ใช่รถ Supercar ที่เกิดมมาเพื่อเป็นรถ Track แต่พอประสานกับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ดี รถคันนี้ก็ให้การควบคุมท่ีง่ายดาย ผู้หญิงก็สามารถขับได้เช่นกัน
ต้องบอกเลยว่ารถคันนี้ขับง่ายมากๆ ขึ้นเกียร์ D แล้วปล่อยเบรครถก็จะไหลไปข้างหน้าอย่าง Smooth การตัดต่อของเกียร์ก็ทำได้อย่างราบเรียบ แต่สิ่งที่ต่างกันอย่างแรกก็คือ รถคันนี้ไฟเลี่ยวจะอยู่ฝั่งขวา เพื่อให้คนไทยส่วนใหญ่ใช้งานได้อย่างสะดวก