“ลองย้อนกลับมาดูโลโก้รถหรูแต่ละแบรนด์ที่คุณได้ลองสัมผัส ว่าผู้รังสรรค์รถหรูมีแนวคิดอย่างไร และโลโก้ยี่ห้อรถหรูนั้น ต้องการจะสื่อสารอะไรกับคุณ”
โลโก้รถหรู ถึงจะเป็นเพียงชิ้นงานเล็ก ๆ แต่สามารถใช้บ่งบอก “อัตลักษณ์ ความโดดเด่น ประวัติความเป็นมา” ของแบรนด์รถหรูได้อย่างยิ่งใหญ่ เพราะโลโก้ยี่ห้อรถหรูแต่ละแบรนด์ต่างก็มีคุณค่าที่เก็บซ่อนเอาไว้ รอให้เจ้าของหรือผู้หลงใหลในยานยนต์หรูมาค้นพบ Prime Cars Rental พร้อมแล้วที่จะพาคุณมารู้ถึงเบื้องหลังของโลโก้รถหรูทั้งหมด 15 แบรนด์ดัง มาเริ่มกันเลย
ประวัติโลโก้รถหรู 15 แบรนด์ดังระดับโลก
เริ่มกันเลยกับโลโก้ยี่ห้อรถหรูแบรนด์แรกกับ Mercedes-Benz
1.โลโก้รถหรู Mercedes-Benz
โลโก้รถหรูจากเยอรมนี Mercedes-Benz เกิดขึ้นอย่างบังเอิญจาก “โปสการ์ด” ที่ผู้ก่อตั้งอย่าง Gottlieb Daimler ได้ส่งให้กับภรรยาของเค้าก่อนเสียชีวิต ซึ่งในปี 1909 ลูกชาย Daimler ได้เจอโปสการ์ด ซึ่งภายในนั้นก็มีภาพวาดดาวสามแฉกที่มีความหมาย “ดาวเจิดจรัสที่ส่องแสงเหนือโรงงานโชติช่วงชัชวาล” ซึ่งลูกชายเขาก็ไม่รอช้า หยิบจับโลโก้นี้มาใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา คุณภาพ งานวิศวกรรมชั้นครูของ Mercedes-Benz ด้วยวิสัยทัศน์การรังสรรค์พาหนะ 3 รูปแบบตาม 3 แฉกของดาวอย่าง “พื้นดิน, น้ำ และอากาศ” ซึ่งก็ได้ประสบความสำเร็จไปทั่วโลกจวบจนทุกวันนี้
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู Mercedes-Benz และราคาเช่าขับ
2.โลโก้รถหรู BMW
โลโก้รถหรู BMW ถือกำเนิดขึ้นในปี 1916 ได้รับแรงบันดาลใจเต็ม ๆ มาจากธงของแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี (ที่ตั้งศูนย์ใหญ่ของ BMW) เบื้องหลังการใช้สีโทนฟ้าขาวในโลโก้มาจากการที่ BMW นำโลโก้ไปแปะเป็น “ใบพัด” ของเครื่องบินที่หมุนตัดกับท้องฟ้าเพื่อใช้โฆษณาเครื่องบิน เพราะช่วงแรกของ BMW พวกเขาเริ่มจากการทำธุรกิจการบินมาก่อน โดยใช้ชื่อว่า Bavarian Motor Works แต่สุดท้ายแล้วก็เบนเข็มหันมาผลิตรถยนต์ชั้นหรูหรา แต่ทั้งนี้ก็ยังคงโลโก้รถหรูใบพัดฟ้าขาวอันเป็นเอกลักษณ์เอาไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ รำลึกว่าถึงแม้จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมไป แต่ BMW ก็ยังยึดมั่นในงานวิศวกรรมและนวัตกรรมคุณภาพอยู่เสมอนั่นเอง
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู BMW และราคาเช่าขับ
3.โลโก้รถหรู Ferrari
Ferrari เป็นโลโก้รถหรูจากอิตาลีที่แปลกตาไปจากแบรนด์อื่น ๆ เพราะใช้ “ม้าดำกระโดด” แทนสัญลักษณ์ทั่วไป ที่มาของโลโก้นี้เกิดจากผู้ก่อตั้ง Enzo Ferrari ได้พบกับ Francesco Baracca วีรบุรุษนักบินที่ติดภาพวาดม้าดำกระโดดเอาไว้ที่ตัวถังเครื่องบิน ด้วยความเชื่อว่าจะนำพาโชคดีและชัยชนะมาให้ ซึ่งสิ่งนี้โดนใจ Enzo อย่างจัง จนเกิดแรงบันดาลใจและนำมาใช้เป็นโลโก้รถหรู Ferrari ที่สื่อถึง “พลัง ความหรูหรา ความรวดเร็ว และการแข่งขัน” ซึ่งตัวโลโก้จะมีสามส่วน – พื้นสีเหลืองคือสีเมืองโมเดนา บ้านเกิดและที่ตั้งศูนย์ใหญ่ Ferrari ของเขา ส่วนแถบเขียว-ขาว-แดง สื่อถึงธงชาติอิตาลี สื่อว่า Enzo ยังไม่ลืมถิ่น ไม่ทิ้งพื้นเพของตัวเองไป
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู Ferrari และราคาเช่าขับ
4.โลโก้รถหรู Porsche
เมื่อพูดถึงโลโก้ Ferrari แล้วไม่พูดถึงโลโก้รถหรู Porsche ไม่ได้ เพราะโลโก้รถหรูจากสตุทการ์ดต (Stuttgart) เมืองแห่งฟาร์มม้าอย่าง Porsche ก็ใช้โลโก้ “ม้าดำกระโดด” เช่นเดียวกับ Ferrari แต่ใช้สีพื้นหลังจากธงชาติเยอรมัน ดำ แดง ทอง ซึ่งความหมายก็คล้ายคลึงกัน นั่นคือความทรงพลัง ปราดเปรียว สง่างาม แต่ความคล้ายคลึงนี้ทำให้เหล่าคอยานยนต์พยายามขุดคุ้ยหาประวัติเพิ่ม และลือกันว่าที่วีรบุรุษนักบิน Francesco Baracca ได้ติดภาพวาดม้าดำกระโดดก็เป็นเพราะเขามาจากเมืองสตุทการ์ด ต (Stuttgart) นั่นเอง เรียกได้ว่า Baracca อาจเป็น Inspiration ผู้ให้กำเนิดโลโก้รถหรูถึง 2 แบรนด์เลยทีเดียว
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู Porsche และราคาเช่าขับ
5.โลโก้รถหรู Lamborghini
Lamborghini โลโก้รถหรูจากอิตาลี อีกหนึ่งแบรนด์รถหรูที่ใช้สัตว์อย่าง “วัวกระทิงสีทอง” แทนโลโก้ ซึ่งเกิดมาจากการที่ Ferruccio Lamborghini ผู้ก่อตั้งได้ไปเยี่ยมชมฟาร์มวัวกระทิง และสัมผัสได้ถึงความเป็นนักสู้ ความแข็งแกร่ง กล้าหาญ ไม่ยอมแพ้ รวมถึงยังเป็นราศีและสัญลักษณ์บ้านเกิดของเขาเอง ดังนั้นเขาจึงไม่รอช้า นำวัวกระทิงมาใช้เป็นโลโก้รถหรู แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะแต้มสีทองดำเพื่อสื่อถึงอำนาจบารมี และความหรูหราที่ผู้รักยานยนต์จะได้รับจากการสัมผัสยานยนต์ Lamborghini นั่นเอง
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู Lamborghini และราคาเช่าขับ
6.โลโก้รถหรู Maserati
Maserati โลโก้รถหรูจากอิตาลี ใช้สัญลักษณ์อย่าง “ตรีศูล” ซึ่งออกแบบโดย Mario Maserati ซึ่งเบื้องหลังของการนำโลโก้ตรีศูลมาใช้ มาจากเมือง Bologna ที่ตั้งบริษัท Maserati รู้จักกันดีในชื่อ “เมืองแห่งตรีศูล” รวมถึง Maserati ยังมีความเกี่ยวข้องกับเทพแห่งทะเลอย่างเนปจูน (โพไซดอน) เพราะ Maserati ริเริ่มมาจากการผลิตเครื่องยนต์เรือดำน้ำมาก่อนเปลี่ยนผ่านไปผลิตรถหรูแทน การนำตรีศูลมาใช้เป็นโลโก้รถหรูจึงเป็นรากฐานเอกลักษณ์ และประวัติอันยาวนานของ Maserati ไปโดยปริยาย
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู Maserati และราคาเช่าขับ
7.โลโก้รถหรู Roll-Royce
Roll-Royce แบรนด์รถหรูที่มีโลโก้รถหรูที่ Unique ด้วยการใช้ “รูปปั้นเทพีนำโชค” Spirit of Ecstasy เป็นโลโก้รถหรูติดบนกระโปรงหน้ารถทุกรุ่น ออกแบบโดย Charles Robinson Sykes นักแกะสลักชาวอังกฤษ โดยรูปปั้นเทพีนี้ได้แรงบันดาลมาจากเพื่อนของเขา Lord Montagu ที่แอบคบลับ ๆ กับหญิงนาม Eleanor Thornton ทั้งที่เขามีภรรยาอยู่แล้ว แต่เขาไม่ได้เอาประเด็นของการคบชู้มาใช้เป็นความหมายหลัก แต่หยิบจับเอารูปลักษณ์หญิงงาม ความหรูหรา ปราณีตมาใช้จนกลายเป็นรูปปั้นเทพีผู้กรีดกรายปีกอย่างปราดเปรียว สลักจิตวิญญาณลงสู่รถหรูทุกรุ่นของ Roll-Royce นั่นเอง
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู Roll-Royce และราคาเช่าขับ
8.โลโก้รถหรู Volkswagen
โลโก้รถหรูสัญชาติเยอรมนี Volkswagen ประดิษฐ์ขึ้นในปี 1930 โดยพนักงานตำแหน่งทั่วไปไม่หวือหวาอย่าง Franz Xavier Reimspiess แต่กลับสร้างโลโก้รถหรูจากตัวอักษร “VW” สร้างแบรนด์ให้ได้อย่างโดดเด่น โดยตัวโลโก้ประกอบไปด้วยตัวอักษณ V และ W ที่จัดเรียงอย่างลงตัว ซึ่งนอกจากจะเป็นการสื่อถึงชื่อแบรนด์ Volkswagen แล้ว ยังมีความหมายว่า “People’s Car” หรือ “รถของประชาชน” ซึ่งมีเอกลักษณ์เด่นคือ ความเรียบง่าย ไว้วางใจได้ ใครก็ขับได้ การใช้สีน้ำเงินก็สื่อถึงความน่าเชื่อถือ และสีขาวที่บ่งบอกความบริสุทธิ์ มีเสน่ห์ ซึ่งในปีที่ผ่าน ๆ มาแบรนด์ได้ปรับปรุงโลโก้ใหม่ให้มีความเป็น 2 มิติมากขึ้น เรียบแต่โก้ ไฮลักซูยิ่งกว่าเดิม
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู Volkswagen และราคาเช่าขับ
9.โลโก้รถหรู Volvo
โลโก้รถหรูจากสวีเดนอย่าง Volvo มองแว๊บแรกอาจทำให้ใครเข้าใจผิดว่าเอาแรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์ของผู้ชาย (Male) แต่จริง ๆ แล้วตัวโลโก้รถหรู Volvo แปลว่า I Roll (ขับขี่รถยนต์) ในภาษาละติน ด้วยเป้าหมายต้องการทำให้ทุกการเดินทางง่ายขึ้น ตัวลูกศรชี้ขึ้นจริง ๆ แล้วเป็นสัญลักษณ์ของ “ธาตุเหล็ก” โบราณ ที่สื่อถึงความปลอดภัย คุณภาพ ความแข็งแรง ประกอบกับวงกลมที่มาจาก “ตลับลูกปืน” ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ Volvo ได้ริเริ่มผลิตในช่วงแรก ๆ ก่อนเบนเข็มมาผลิตรถยนต์หรูในภายหลัง
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู Volvo และราคาเช่าขับ
10.โลโก้รถหรู Triumph
โลโก้รถหรู Triumph โดดเด่นด้านการเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชื่อดังจากอังกฤษ ซึ่งการออกแบบโลโก้รถหรูนี้มีหลักแนวคิดที่เรียบง่าย แต่เฟรนลี่ อย่างการที่ใช้เส้นโค้งที่ลากจากตัว R ยาวไปจนถึงตัว H เปรียบเสมือนรอยยิ้ม จนกลายเป็นเอกลักษณ์เด่นของแบรนด์ Triumph ซึ่งก็มาพร้อมกับโลโก้สามเหลี่ยมที่มีสัญลักษณ์คลายกับธงชาติประเทศอังกฤษ บ่งบอกที่มาได้ชัดเจนอย่างภาคภูมิใจ
11.โลโก้รถหรู Jaguar
Jaguar โลโก้รถหรูอีกแบรนด์ที่ใช้สัตว์อย่าง “เสือจากัวร์” เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวมาตั้งแต่ปี 1935 โดย Sir William Lyons พร้อมจัดวางท่าทางให้อยู่ในรูปแบบเสือกระโจนพุ่งไปด้านหน้า สะท้อนถึงความปราดเปรียว ว่องไว คล่องตัว และพลังแห่งการขับเคลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งตัวโลโก้รถหรูนี้ได้ใช้แสงเงาเข้ามาช่วยเยอะกว่าแบรนด์อื่น เพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวให้แบรนด์ดูมีมิติ ดูมีชีวิตชีวา สวยงามหรูหรา
12.โลโก้รถหรู MINI
คงไม่มีโลโก้รถหรูไหนที่บ่งบอกถึงความหมายได้ตรงไปตรงมาเท่ากับ MINI แบรนด์รถยนต์ขนาดเล็กสุดคลาสสิกจากเมืองผู้ดี ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเจ้าของ MINI ก็คือ BMW นั่นเอง การเลือกใช้วงกลมและมีปีกนั้นได้แรงบันดาลใจ (และให้เกียรติ) Mini Cooper รุ่นออริจินัลที่จะมีไฟหน้าเป็นวงกลมใหญ่ ๆ หน้ารถ จากนั้นก็สลักคำว่า MINI ลงไปกึ่งกลางเพื่อบอกถึงชื่อแบรนด์ตรง ๆ ไม่ซับซ้อน แต่คลาสสิก คงกระพัน สื่อสารได้จัดเจนว่าเป็นรถหรูไซซ์กะทัดรัด ไม่ตกยุคตกสมัย
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู MINI และราคาเช่าขับ
13.โลโก้รถหรู Audi
โลโก้รถหรูสี่ห่วงจาก Audi มีที่มาที่หนักหนาสาหัสสักหน่อย เริ่มต้นในปี 1932 Audi ถูกบังคับให้ควบรวมกิจการกับธุรกิจอื่นเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน DKW, Horch และ Wanderer เและใช้ชื่อ “Auto Union” เกิดเป็นโลโก้ 4 ห่วงที่สื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียว นวัตกรรม เทคโนโลยียานยนต์ชั้นครู แต่ในปี 1960 Auto Union ก็โดน Volkswagen ซื้อไปอีก และพาร์ทเนอร์ทั้ง 3 ต่างก็ปิดตัวลงไปเรื่อย ๆ จนเหลือเพียงแค่ Audi แต่ก็โชคดีที่ยังใช้โลโก้ 4 ห่วงนี้ได้จนถึงทุกวันนี้
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู Audi และราคาเช่าขับ
14.โลโก้รถหรู Aston Martin
Aston Martin โลโก้รถหรูจากเมืองผู้ดี มีเอกลักษณ์เด่นคือโลโก้ “ปีก” ที่สลักชื่อแบรนด์กึ่งกลาง แต่จริง ๆ แล้วโลโก้ออริจินัลนั้นมีความคล้ายคลึง Volkswagen แต่ใช้อักษร A และ M แทน แต่ใน 1927 Aston Martin ก็ได้เปลี่ยนโลโก้ใหม่โดยใช้ปีกแทน คาดว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากโลโก้รถหรู Bentley ที่ใช้ปีกเป็นโลโก้รถหรูเหมือนกัน มีความหมายสื่อถึงความเร็ว ความอิสระ ความฝัน และเสรีภาพในการขับขี่ สำรวจโลก (Exploration) ได้ดั่งใจคิด
15.Bentley
โลโก้รถหรูสุดท้าย Bentley อีกแบรนด์ที่ใช้ปีกเป็นสัญลักษณ์ โดยออกแบบขึ้นมาโดย Gordon Crosby นักจิตรกรรมมือหนึ่งช่วงยุคก่อนสงครามโลก เพื่อนของ Walter Owen Bentley เจ้าของ Bentley โดยเขาได้คิดค้นโลโก้รถหรูในชื่อ “Winged B” ขึ้นมา โดยตัว B สื่อถึงชื่อแบรนด์ Bentley และปีกสื่อถึงความดื่มด่ำของการขับขี่ นอกจากนี้ยังได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ Walter Owen Bentley เป็นนักวิศวกรรมเครื่องบินจู่โจมในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และที่พิเศษคือ “การกันเลียนแบบ” ที่ Crosby ได้แอบวางยา ใส่ขนปีกแต่ละข้างให้ไม่เท่ากันเพื่อจับผิดคนลอกเลียนโลโก้อีกด้วย
คลิกที่นี่ เพื่อดูรุ่นรถหรู Bentley และราคาเช่าขับ
โลโก้รถหรู ตัวตนของแบรนด์รถหรูที่มีคุณค่า
ประวัติของโลโก้แบรนด์รถหรู 15 แบรนด์ที่เราได้ยกมา Prime Cars Rental มีเป้าหมายอยากให้ผู้รักยานยนต์หรูรู้จักที่มาที่ไปของแบรนด์รถหรูที่คุณชื่นชอบมากขึ้น ที่ไม่ใช่เพียงแค่ด้านสมรรถนะหรือฟังก์ชันภายในรถ แต่เป็นคุณค่าที่สั่งสมมาใน “โลโก้รถหรู” ที่คุณเห็นในแต่ละวัน
และเราหวังว่าหลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้จบ คุณจะรักและเชิดชูรถหรูที่คุณโปรดปรานได้เต็มอก เป็นแฟนตัวยงที่รอบรู้ทุกด้านทุกมุม โชว์ความภาคภูมิใจและความรักที่มีต่อแบรนด์รถหรูได้เต็มเปี่ยม