Range Rover Evoque P300e เป็นรถ SUV รุ่นพรีเมียมที่นำหน้าคู่แข่งรายอื่น ๆ อยู่หลายขุม ด้วยสมรรถนะที่เร็วแรง เทคโนโลยียานยนต์สุดล้ำยุค งานออกแบบ Luxury ที่เรียกได้ว่าเป็นจ้าวแห่งรถ SUV ที่ออกแบบมาได้โดดเด่น สะกดทุกสายตาของเหล่าผู้รักความเร็ว
ด้วยสมรรถนะและการออกแบบที่ลงตัว ทำให้ Range Rover Evoque P300e กลายเป็นหนึ่งในรถ SUV ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งภายในบทความนี้ Prime Cars Rental ก็ไม่รอช้า จะมาเผย Option ภายในของ Range Rover P300e ว่าอะไรที่ทำให้รถ SUV รุ่นนี้มีความพิเศษแตกต่างกว่าทุกรุ่นในอุตสาหกรรมยานยนต์ มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย
Range Rover Evoque P300e ที่สุดของรถ SUV แห่งยุค Option ครบครัน งานออกแบบโมเดิร์น
การออกแบบภายนอกล้ำสมัย ดูดีแม้ผ่านไป 10 ปี
Range Rover P300e เป็นหนึ่งในรถ SUV สุดหรูที่เซเลปทั่วโลกต่างต้องมีเอาไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะเป็น Celebrity Chef อย่าง Jamie Oliver หรือ Victoria Beckham ภรรยาของนักเตะก้องโลกของ David Beckham ด้วยงานออกแบบภายนอกที่สวยและพรีเมียมที่สุดเท่าที่เคยมีมา เริ่มต้นจากกระจังหน้าออกแบบสไตล์ Bubble-Shaped แนวนอนสุดพรีเมียมพร้อมไฟหน้า LED ลวดลาย Futuristic บางเฉียบสุดพรีเมียม และส่วนของกันชนหน้าที่ออกแบบเพื่อรับกับดีไซน์ส่วนอื่นได้อย่างลงตัว
ด้านข้างของ Range Rover P300e เพิ่มความทันสมัยด้วยลวดลาย Shoulder Line เส้นตรงโฉบเฉี่ยว เริ่มตั้งแต่ไฟ LED ลากยาวไปถึงส่วนหลัง และเสริมทัพสมรรถนะการขับขี่ Off-Road ที่เป็นเอกลักษณ์ของรถ SUV ซีรีส์นี้ด้วยกันชนแบบสปอร์ตด้านข้าง และลวดลายล้อ 5 ก้านที่ออกแบบอย่างปราณีตสุดหรู ขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้ว และหลังคาทรง Slope โค้งมนคล้ายรถคูเป้
ที่เปิดประตูรถ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่น่าสนใจของ Range Rover P300e เพราะเมื่อรถยนต์กำลังขับเคลื่อนหรือล็อคประตูอยู่ ที่เปิดประตูจะถูกซ่อนเข้าเรียบเนียนไปกับตัวรถยนต์ทันที หากคุณอยากให้ที่เปิดประตูเด้งกลับออกมาก็ต้องปลดล็อครถก่อน ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นรายละเอียดจุดเล็ก ๆ แต่มีผลกับความสวยงามมากเลยทีเดียว
ด้านท้าย Range Rover P300e มีพื้นที่ภายในกว้างขวางสมกับเป็นรถ SUV ที่สมบุกสมบันสามารถบรรจุสิ่งของได้ถึง 591 ลิตรแต่ถ้าคุณพับที่นั่งลงจะได้พื้นที่เพิ่มมากขึ้นถึง 1,383 ลิตร ถ้าเทียบกับ SUV ตัวใกล้เคียงกันอย่าง BMW X2 xDrive 25e สามารถบรรจุของได้แค่ 410/1,290 ลิตรเท่านั้น
ดังนั้นถือว่า Range Rover P300e มีพื้นที่กว้างเยอะ เก็บของได้เพียงพอสำหรับการไปตั้งแคมป์หรือเดินทางไปเที่ยวนอกบ้านได้แบบเหลือ ๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าพื้นที่จะเต็มเลยทีเดียว
การออกแบบภายในเรียบหรู ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ผู้รักความเร็วยุคใหม่
เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยสารของ Range Rover P300e คุณจะพบกับการบุพื้นที่ภายในด้วยวัสดุพรีเมียมในโทนสีดำสุดสวย มอบบรรยากาศ Luxury ทุกขณะที่ขับ ภายในรถมีการติดตั้งลำโพงเสียงกระหึ่มถึง 6 ตัว
ส่วนของเบาะนั่งมีทั้งหมด 4 เบาะขนาดใหญ่นั่งสบายรองรับผู้โดยสารที่มีความสูงได้ถึง 188 เซนติเมตรนั่งสบายระบบควบคุมด้วยไฟฟ้า 12-Way ฟังก์ชันสุดล้ำในตัวเพรียบพร้อม เช่น เปิด Heater, นวด, ให้ความเย็น ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นรถที่เก็บเสียงภายในได้ดีมาก แต่อาจได้ยินเสียงขับเคลื่อนได้เล็กน้อยเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง
นอกจากนั้นภายในรถยังมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส TFT สีสันสวยงาม จอสว่างสู้แดดได้ดีขนาดใหญ่ถึง 2 ส่วนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคุณ โดยทั้ง 2 ส่วนมีดังนี้
- ส่วนแรกคือหน้าจอแสดงผล 12.3 นิ้ว บอกถึงค่าของการขับขี่ น้ำมัน ความเร็ว ปั้มน้ำมันใกล้เคียง แสดงสถานะการใช้พลังงานต่าง ๆ และระบบแจ้งเตือนการรัดเข็มขัดนิรภัยในแต่ละที่นั่ง
- อีกส่วนคือหน้าจอแสดงผล 10 นิ้วที่ใช้ควบคุมระบบทั้งหมดภายในรถ ครบจบในหน้าจอเดียว
ซึ่งนอกจากหน้าจอแสดงผลจะเป็นระบบสัมผัสแล้ว ยังมีตัวควบคุมระบบอากาศภายในรถแบบปุ่มจริงให้หมุนเลื่อนกรณีไม่สะดวกสัมผัสหน้าจอ ซึ่งตัวควบคุมนี้ยังสามารถกดลงเพื่อเปิดระบบลมร้อน Heater ของบาะนั่งภายในรถ รวมถึงกรองอากาศให้สะอาดปราศจากฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการภายใน Range Rover P300e ยังรองรับการใช้งาน Android Auto และ Apple CarPlay ทั้งแบบต่อสายและไร้สาย รวมถึงยังสามารถปรับหน้าจอสัมผัสเป็น Dark Mode และ Light Mode เพื่อช่วยในการสังเกตหน้าจอขณะอยู่ในสภาพแสงรอบข้างต่ำหรือแสงจ้ามากเกินไป
จากนั้นก็จะเป็นปุ่มตรงกลางพวงมาลัยที่เมื่อกดแล้วจะปรับเปลี่ยนไฟ Backlight ให้แบบไดนามิค และเปิดระบบไกด์อำนวยความสะดวกในการปรับแต่ง Setting ภายในรถ และสุดท้ายคือแผงควบคุมทางด้านขวาที่เป็นส่วนของตัวช่วยในการขับขี่สุดล้ำ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยสังเกตเลนขับขี่ (Lane Detection), ปุ่มลิมิตความเร็วของรถ (LIM), ระบบช่วยควบคุมความเร็วในการขับขี่ (ACC) เป็นต้น
และส่วนถัดมาคือส่วนของพื้นที่ชาร์จโทรศัพท์และเก็บของจิปาถะ โดยจะมีที่วางขวดน้ำเล็ก-ใหญ่ 2 จุด และพื้นที่อเนกประสงค์ตรงกลางที่มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะเก็บกระเป๋าสตางค์ได้เลยทีเดียว และใกล้เคียงยังมีที่เสียบ USB-C, USB-A สำหรับการเชื่อมต่อหรือชาร์จอุปกรณ์ Smartphone, ฯลฯ ตามต้องการ
สมรรถนะภายใน แข็งแกร่ง ดุดัน พร้อมลุยทุกพื้นที่
Range Rover P300e เป็นหนึ่งในรถ SUV ไฮบริดที่ทรงพลังที่สุดที่เคยผลิตขึ้น รายละเอียดสมรรถนะภายในมีดังนี้
- ขุมพลังจากเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.5 ลิตร 197 แรงม้า
- เมื่อผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า 109 แรงม้าเพิ่ม จะมีความเร็วแรงสูงสุดถึง 309 แรงม้า
- แรงบิดที่ 540 นิวตัน/เมตร เร่งความเร็ว 0-60 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 6.85 วินาที
- ความเร็วสูงสุดทำได้อยู่ที่ 132 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ถ้าอยู่ในโหมดใช้พลังงานไฟฟ้าความเร็วจะอยู่ที่ 84 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 55 กิโลเมตร
ภายในยังใช้ระบบเกียร์ 8 สปีดแบบออโต้ซึ่งคุณสามารถปรับเกียร์ได้เองด้วยการเปลี่ยนระบบเกียร์เป็น Sport mode ในส่วนของ Setting > Gear Selector
ซึ่งส่วนที่ทำได้ดีมากสำหรับรุ่นนี้คือ การปรับเปลี่ยนระบบพลังงานภายในรถ เพราะตัวรถแทบจะไม่มีอาการกระตุกหรือเสียงรบกวนเลย โดยเสียงที่อาจเกิดขึ้นได้มาจากเสียงมอเตอร์ด้านหน้ารถเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การขับขี่มีให้เลือกถึง 3 โหมดตามความต้องการของคุณ เดินทางได้ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนก็ตาม
- โหมด Hybrid เป็นโหมดขับขี่เริ่มต้น ใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซินอัตโนมัติ หลักการขับขี่ในโหมดนี้คือการผสมผสานใช้พลังงานทั้งสองอย่างอัจฉริยะ และจะมีระบบ Predictive Energy Optimization (PEO) ระบบนำทางที่ผนวก GPS เพื่อช่วยเลือกเส้นทางที่สะดวกที่สุดให้กับผู้ขับขี่
- โหมด EV โหมดขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าเท่านั้น โดยพลังงานทั้งหมดจะอยู่ในแบตเตอรี ข้อดีคือขับขี่ได้เงียบ ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมเพราะไม่ปล่อยก๊าซที่เป็นพิษ
- โหมด Power Saving เพื่อการประหยัดพลังงานในกรณีฉุกเฉิน โดยเปลี่ยนเครื่องยนต์สันดาปให้เป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อน
ระบบความปลอดภัยใน Range Rover P300e มีครบครันให้เหมาะกับการใช้ขับขี่ Off-Road ได้ทุกสถานการณ์ ซึ่งคุณสามารถสังเกตสภาพแวดล้อมรอบข้างได้แทบจะทุกด้านทุกมุมด้วยกล้องรอบและพิเศษที่สุดคือมีกล้องใต้รถให้อีกด้วย ที่แทบจะไม่มีแบรนด์เจ้าไหนทำกันเลยในตลาด
และหมดห่วงเรื่องอุบัติเหตุ เพราะอ้างอิงจาก Euroncap ได้ให้คะแนนทดสอบกันการชน (Crash Test) เต็ม 5/5 เลยทีเดียว โดยได้คะแนนในส่วนของผู้ใหญ่ไปถึง 94% และเด็กที่ 87% อีกทั้งในด้านของระบบช่วยเหลือความปลอดภัย (Safety Assist) ยังได้คะแนนไปที่ 73% ซึ่งสิ่งที่ทำให้ Range Rover P300e ปลอดภัยนั่นก็คือระบบความปลอดภัยมากมายดังนี้
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วในการขับขี่ (ACC)
- ระบบช่วยดูเลน (Lane Assist)
- ระบบลิมิตความเร็วของรถ (LIM)
- ระบบเบรกฉุกเฉิน (Emergency Braking System)
- ระบบช่วยจอดรถ (Parking Assist)
สรุป
Range Rover Evoque P300e เป็นหนึ่งในรถ SUV ไฮบริดสุดหรูที่มีสมรรถนะครบครันมากที่สุดในโลก และเป็นอีกรุ่นที่ผู้รักความเร็วทั่วโลกต่างอยากจับจองเป็นเจ้าของสักคัน และแน่นอนว่าเมื่อเวลาผ่านไป Range Rover P300e จะกลายเป็นอีกรุ่นในตำนานที่ถึงแม้จะเก่า แต่ก็ยังเก๋าอยู่เสมอแน่นอน
แต่สำหรับใครที่เห็นแค่ภาพยังไม่ถึงใจ เรามีวีดีโอสั้น ๆ ที่จะสรุปทุกความหรูหราของ Range Rover Evoque P300e ให้กับคุณ คลิกที่นี่เพื่อรับชมได้เลย
เปิดประสบการณ์ สัมผัส Range Rover Evoque P300e รถ SUV ไฮบริดสุดหรู ราคาไม่แพงได้แล้ววันนี้ที่ Prime Cars Rental
เมื่อคุณได้ทราบถึงความสุดยอดของสมรรถนะทั้งภายในและภายนอกของ Range Rover P300e แล้วและอยากลองสัมผัสสุนทรีย์การขับขี่สุดหรูแบบนี้ ที่ Prime Cars Rental เรามี Range Rover Evoque P300e ให้บริการเช่ากับคุณ ในราคาสุดคุ้ม เพียงวันละ 15,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเราอยากบอกว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่ได้ลองเช่าขับ Range Rover Evoque P300e แทบไม่อยากเปลี่ยนใจไปขับคันอื่นอีกเลย
นอกจากนี้ที่ Prime Cars Rental ยังมีบริการให้เช่า รถหรูเอสยูวี และ เช่ารถสปอร์ต เช่ารถ Supercar อีกมากมายหลายรุ่น เช่น Mercedes, Lamborghini, BMW, และ Porsche จองได้เลยด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวไม่ต้องใช้เอกสารเยอะ พร้อมให้คำปรึกษาและติดต่อสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 081-954-2451 หรือพูดคุยออนไลน์ที่ Line: @primecarsrental