F1 หรือฟอร์มูล่าวัน ถือเป็นการแข่งขันรถ ที่ต้องใช้ทั้งความเร็ว ความแรงของตัวรถยนต์ที่ใช้ ซึ่งรวมทั้งอะไหล่ทุกอย่างของรถ ที่ต้องทำออกมาให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนเข้าสู่เส้นชัยได้เร็วที่สุด ถือเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่รักในความเร็วทุกคน จนต้องมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกในรายการแข่งรถฟอร์มูล่าวัน สำคัญ ๆ
แต่นอกจากเรื่องของสมรรถนะของรถยนต์และเครื่องยนต์ที่จะมาเป็นผู้กำหนดว่าใครจะเป็นผู้ชนะนั้น กีฬา F1 ยังเต็มไปด้วยเทคนิคและปัจจัยอื่น ๆ ที่จะเข้ามาช่วยให้ได้รับชัยชนะในการแข่งขัน เช่นความสามัคคีของทีมในการเปลี่ยนยาง (อย่างน้อย 1 ครั้งระหว่างการแข่งขัน) เปลี่ยน Part ของรถที่เสียหาย ระหว่างการแข่งขันเพื่อความปลอดภัย และกลยุทธ์ในการแข่งขันต่าง ๆ
ซึ่งใครที่กำลังต้องการรู้เรื่องราวของฟอร์มูล่าวัน สุดยอดกีฬาแข่งรถที่ผู้รักในความเร็วทุกคนต่างหลงใหล และอยากทราบว่าในการแข่งขันกีฬา F1 ทำไมถึงต้องใช้ความสามัคคีและกลยุทธ์คืออาวุธสำคัญ ไปติดตามกันต่อได้เลยที่บทความนี้
F1 มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ?
Formula 1 (ฟอร์มูล่าวัน) คือการแข่งขันกีฬารถแข่งสูตร 1 ที่เป็นการแข่งขันโดยใช้ความเร็วเป็นตัวกำหนดในการตัดสินหาผู้ชนะ โดย มีรากฐานมาจากการแข่งขัน รถแข่งชิงแชมป์ยุโรป (European Championship) ปี 1920 และ 1930 ซึ่งการแข่งขันนั้นถูกพัฒนาขึ้นมาอยู่ตลอด โดยในตอนแรกเริ่ม จะอนุญาตให้รถที่ใช้ในการแข่งขันต้องมีน้ำหนักอย่างน้อย 900 กิโลกรัม และจึงค่อย ๆ เปลี่ยนตามวิวัฒนาการของการสร้างวัสดุ เป็น 400-850 กิโลกรัม
ภาพจาก Formula1
แต่จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ของสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นทำให้การแข่งขันรถแข่งชิงแชมป์ยุโรป ถูกยุติลงไปเป็นระยะเวลาเกือบ 7 ปีเต็ม (1939-1946) โดยเมื่อเหตุการณ์สงบลงทาง Fédération Internationale de l’Automobile (FIA) หรือสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ ได้ตัดสินใจกำหนดมาตรฐาน กฎระเบียบของการแข่งขันรถแข่งใหม่ในชื่อว่า F1 หรือ Formula 1 (ฟอร์มูล่าวัน)
โดยคำว่า Formula 1 นั้นมีความหมายว่า สูตรหนึ่ง ซึ่งเป็นกฏระเบียบของผู้เข้าแข่งขันรถแข่งทุกคนที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งจะบังคับใช้ในการแข่งขันรถแข่งทั่วโลก สำหรับการแข่งขันรถแข่ง 1 ที่นั่งและเป็นรถที่เปิดล้อ จึงเป็นที่มาของชื่อ Formula 1 นั่นเอง
การแข่งขันรถ Formula 1 มีกฎกติกา กฎระเบียบอย่างไรบ้าง ?
การแข่งขันรถ F1 หรือรถ Formula 1 นั้นจะมีรูปแบบการแข่งขันที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกับการแข่งขันกีฬาความเร็วในรูปแบบอื่น ๆ โดยแต่ก่อน การแข่งขันรถ F1 จะใช้รูปแบบของการแข่งขันแบบ Grand Prix หรือ ‘กรังปรีซ์’ ที่จะเป็นรูปแบบการแข่งขันย่อยหลายรายการ จัดแข่งตามประเทศและเมืองสำคัญทั่วยุโรป เช่น อังกฤษ อิตาลี ออสเตรีย ฮังการี เป็นเหมือนการจัดอันดับไปเรื่อย ๆ เพื่อหานักแข่ง และทีมผู้ผลิต ที่สามารถทำคะแนนได้ดีที่สุดเป็นผู้ชนะการแข่งขัน
ภาพจาก netflix
แต่การแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน สมัยใหม่จะมีการเก็บคะแนนและหาผู้ชนะของการแข่งอยู่ทั้งหมด 2 แบบได้แก่
- Driver’s Championship คือวัดคะแนนในตัวนักแข่งแต่ละคน ว่าใครได้คะแนนรวมสูงสุด จะถือเป็น World Championship
- Constructor’s Championship คือวัดคะแนนรวมในทีม โดยรวมคะแนนจากนักแข่ง 2 คน ทีมไหนได้คะแนนรวมสูงสุด ก็จะได้เป็น Constructor Championship ในปีนั้น ๆ โดยการแข่งขัน F1 ลักษณะนี้จะมีทั้งหมด 10 ทีม แต่ละทีม มีนักแข่ง 2 คน รวมเป็นนักแข่งทั้งหมด 20 คน โดยอันดับ 1-10 จะได้คะแนน ที่จะตัดเฉลี่ยลงมาตามอันดับที่เข้าเส้นชัย แต่ 11-20 จะไม่ได้คะแนนในสนามนั้นๆ
ทำให้กีฬาฟอร์มูล่าวัน กลายเป็นกีฬารถแข่งที่มีความเข้มข้น ตลอดซีซันที่ทำการแข่งขันกรังปรีซ์ จากผู้ที่หลงใหลในความเร็วและผู้ที่ชอบเรื่องรถเร็ว รถหรู จึงไม่แปลกที่กีฬาฟอร์มูล่าวัน เมื่อจัดการแข่งขันขึ้นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ จะได้รับความนิยมสูงมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก โดยรายการแข่งขัน F1 ที่โด่งดังที่สุดในโลกก็คือรายการ British Grands Prix และ Italian Grands Prix
F1 เอกลักษณ์ของรถแข่ง ที่ไม่เหมือนกับรถยนต์ทั่วไปบนท้องถนน
หากคุณได้เคยรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันรถ Formula 1 มาบ้าง ถ้าเป็นคนที่ไม่เคยรู้เรื่องรถแข่ง หรือไม่ได้ชื่นชอบในเรื่องรถมาก่อน คุณจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ากีฬา Formula 1 รถที่นำมาแข่งขันนั้นจะไม่ใช่รถที่เราพบเห็นได้ตามท้องถนนทั่วไป แต่จะเป็นรถที่ขนาดเล็กและรูปทรงที่แปลก ๆ ไปจากรถทั่วไป
ภาพจาก motorsport.com
ซึ่งจุดสังเกตแรกที่เราจะเห็นได้เลย คือ ล้อรถ ที่รถ Formula 1 จะเป็นรถเปิดล้อทั้ง 4 และมีการออกแบบที่นั่งให้สามารถขับได้เพียงคนเดียว ไม่มีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารคนอื่น ๆ เหมือนรถยนต์ปกติทั่วไปที่ใช้โดยสารตามท้องถนน
จริง ๆ แล้วอย่างที่ได้เกริ่นไปในช่วงต้นว่ารถ F1 หรือ Formula 1 นั้นจะมีกฏระเบียบ ข้อบังคับของการผลิตและออกแบบตัวรถที่ไม่เหมือนรถทั่วไป เริ่มตั้งแต่วัสดุที่ใช้ผลิตจะต้องเป็น คาร์บอนไฟเบอร์ ที่เป็นวัสดุในการผลิตรถที่จะช่วยให้ตัวรถ มีน้ำหนักเบา สามารถแหวกอากาศได้ดี ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วของรถยนต์ได้หลายเท่าตัว โดยน้ำหนักของรถ F1 ที่ใช้ในการแข่งขันไม่ว่าจะรายการไหน จะต้องมีน้ำหนักที่ไม่รวมน้ำมัน ไม่น้อยกว่า 702 กิโลกรัม (1,548 ปอนด์) ส่วนขนาดของรถ ก็ต้องมีความกว้างรอบคันไม่เกิน 180 ซม. และความสูงไม่เกิน 95 ซม. ไม่จำกัดความยาว
เครื่องยนต์ของรถ Formula 1 ทั้งหมดจะถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าจะต้องเป็นเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบแบบไฮบริด 1.6 ลิตร ทำรอบได้ไม่เกิน 15,000 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจาก 0 – 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (100 ไมล์) และลดความเร็วเป็น 0 ได้ในเวลาไม่เกิน 5 วินาที นอกจากนั้นยังมีกฎระเบียบของการผลิตรถ Formula 1 อีกมากมาย ที่ทีมผู้ผลิตและนักแข่งทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
และนอกจากนั้นในการแข่งขันรถ Formula 1 นั้นจะมีการใช้ระบบที่เรียกว่า DRS (Drag Reduction System) ที่จะอนุญาตให้นักแข่งเปิดระบบช่องดักลมบริเวณ Tail หลังรถ ช่วยให้เกิดกระแสลมผ่านตัวรถ ช่วยเพิ่มแรงม้าได้มากถึง 20 แรงม้า เพิ่มความเร็วของรถได้ประมาณ 10-12 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อใช้ในการแซงคู่แข่ง โดยกฎคือ รถที่จะใช้ระบบ DRS จะต้องตามหลังรถคันหน้า น้อยกว่า 1 วินาที โดยกฎนี้มีการเริ่มใช้มาตั้งแต่ฤดูกาล 2011
ภาพจาก sportvideo
โดยในช่วงการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ F1ในแต่ละปี แต่ละทีมผู้ผลิตรถจะมีการทดสอบสมรรถนะของรถ F1 ที่จะใช้แข่งขันในแต่ละปี ซึ่งถือเป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ ของการแข่งกีฬา F1 เพราะเป็นการทดสอบว่ารถ F1 ที่ทีมพัฒนากันมา จะสามารถใช้งานในสนามการแข่งขันจริงได้หรือไม่ ยางรถยนต์ และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิตรถจะมีความปลอดภัยและสามารถทำเวลาในการขับขี่ด้วยความรวดเร็วได้จริงหรือไม่
ภาพจาก motorsportmagazine
ทีมรถ Formula 1 ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก มียี่ห้ออะไรบ้าง ?
อย่างที่กล่าวไปว่า รถ Formula 1 จะมีความแตกต่างจากรถที่ใช้ขับขี่บนท้องถนนทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์ที่ผลิตรถ Formula 1 หรือทีมรถ F1 ชื่อดังส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบรนด์รถหรู รถ Supercar ที่มีชื่อเสียงของโลกอยู่แล้ว โดย 5 ยี่ห้อรถ Formula 1 ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก มีดังนี้
- Ferrari
- Mercedes-Benz
- McLaren Mercedes
- Alfa Romeo (ทีมลูกของ Ferrari)
- Alphine Renault
- Red Bull Racing
- Alphatauri RBPT (ทีมลูกของ Red Bull Racing)
- HAAS Ferrari
- Aston Martin Aramco Mercedes
- Williams Mercedes (ทีมลูกของ Mercedes-Benz)
ภาพจาก skf evolution
ทำไมความสามัคคีถึงเป็นสิ่งสำคัญของการแข่งขันกีฬา F1
แม้ดูผิวเผินกีฬา Formula 1 จะดูเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยความสามารถในการขับขี่ส่วนบุคคลของคนขับ หรือต้องอาศัยเครื่องยนต์และวัสดุในการผลิตรถ Formula 1 แต่ความเป็นจริงแล้วกีฬา Formula 1 เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยความสามัคคีของทีมเป็นอย่างมาก (ใน 1 ทีมของการแข่งขัน Formula 1 จะประกอบด้วยนักแข่งและทีมงานซ่อมบำรุงหรือที่เรียกว่า Product Team)
F1 นอกจากจะต้องใช้ความเร็วความแรงของรถแล้ว ยังต้องอาศัยทักษะอย่างสูงของนักแข่งรถ รวมทั้งการวาง Strategy ของทีม ในแต่ละสนาม จะมีการกำหนดให้ต้องเปลี่ยนยางอย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อความปลอดภัย
ซึ่งในการแข่งขันกีฬา Formula 1 นั้นจะต้องอาศัยทีมงาน ในการช่วยซ่อมบำรุงรถแข่งที่ใช้ระหว่างการแข่งขัน เพราะระหว่างการแข่งรถกันแต่ละรอบ จะมีระยะทางหลายรอบสนามเซอร์กิต (สนามแข่งรถ) แน่นอนว่ารถยนต์ที่ถูกเร่งความเร็วอย่างหนักและต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายนาที ย่อมจะมีความร้อนและการเผาไหม้ของยางล้อที่สูง ทำให้เมื่อถึงจุดพักรถ (Pit Stops) ทีมซ่อมบำรุงของแต่ละทีม จะต้องเข้ามาจัดการกับรถ F1 ที่ถูกใช้งานอย่างหนักมาหลายนาทีให้มีสภาพที่พร้อมในการแข่งขันต่อมากที่สุด เช่นการเปลี่ยนล้อ เปลี่ยน Part ที่เสียหายบางส่วนได้ เช่น Front Wing ในกรณีที่เกิดการชน หรือเสียหาย ฯลฯ และในมุมของนักแข่งเอง ก็ต้องทำการผ่อนคลาย กระตุ้นตัวเองให้พร้อมกับการแข่งขันในรอบต่อ ๆ ไป
ถามว่าแล้วทำไม F1 ถึงต้องอาศัยความสามัคคีกัน นั่นก็เพราะว่าเวลาในการพักรถและซ่อมบำรุงนั้น จะมีอยู่อย่างจำกัด เวลาจะถูกนับอยู่ตลอด ถ้าเมื่อถึงจุดพักซ่อมรถแล้ว ทีมงานในการซ่อมทำทุกอย่างล่าช้า ใช้เวลาในการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่รถนาน ก็จะยิ่งกินเวลารวมของทีมไปมากขึ้น และอาจทำให้นักแข่งเข้าเส้นชัยช้ากว่าเวลาที่ควรจะเป็น
ภาพจาก startgrowrun
เพราะฉะนั้น Product Team ทุกคนจะต้องทำงานกันด้วยความสามัคคี รู้หน้าที่ของตัวเอง ทำงานกันด้วยความรวดเร็วควบคู่ไปกับความปลอดภัย สื่อสารกันตลอดเวลา ต้องแบ่งงานกันมาเป็นอย่างดีเพื่อจุดมุ่งหมายให้นักแข่งสามารถขับเข้าเส้นชัยโดยทำเวลาให้เร็วที่สุด
หรือทีมแข่งรถชั้นนำบางทีม นอกจากจะมี Product Team ในการซ่อมบำรุงรถ Formula 1 ระหว่างการแข่งขันแล้วก็ยังมีทีมที่คอยช่วยดูแลฟื้นฟูร่างกายของนักแข่ง ระหว่างการแข่งขันด้วย เช่นเมื่อถึงจุดพักก็จะมีทีมที่รับหน้าที่ใน Recovery ร่างกายของนักแข่ง หาน้ำ เกลือแร่ อาหารเสริมเพิ่มพลังงาน เพื่อทำให้นักแข่งสดชื่น ตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า พร้อมในการขับขี่รอบต่อไปทันที
ซึ่งจะสังเกตได้อย่างชัดเจนเลยว่านอกจากเรื่องของความเร็วของเครื่องยนต์ วัสดุในการผลิตที่ Product Team ต้องให้ความสำคัญอยู่แล้ว เรื่องของความสามัคคีของนักแข่งและ Product Team ที่ต้องทำงานกันเป็นทีม สื่อสารกันอยู่ตลอดเวลาการแข่งขัน ก็คือปัจจัยสำคัญที่จะเข้ามาทำให้ทีมของเราคว้าชัยชนะในการแข่งขัน F1 ได้ในที่สุด
F1 กีฬาที่มีกลยุทธ์เป็นอาวุธสำคัญในการแข่งขัน
คุณรู้หรือไม่ว่า การแข่งขันรถ Formula 1 นั้นนอกจากเรื่องของความเร็วของรถ ความสามารถของนักแข่ง และความสามัคคีของทีมแบบที่เราได้กล่าวไปทั้งหมดแล้ว กลยุทธ์ในการแข่งขัน ก็เป็นสิ่งสำคัญในกีฬา Formula 1 เช่นเดียวกัน
กีฬา F1 นั้นเป็นกีฬาที่เต็มไปด้วยการวางกลยุทธ์มากมาย โดยทีมแข่งรถชั้นนำจะมีตำแหน่งนักวางกลยุทธ์อยู่ในทีมด้วย เพื่อทำการวิเคราะห์ทุกปัจจัยในการแข่งขันให้ได้รับชัยชนะ เช่น การวางแผนการฝึกซ้อม การวางกลยุทธ์ในการเทสระบบความเร็ว ความปลอดภัยของรถ โดยประมาณหกสัปดาห์ก่อนการแข่งขัน นักวางกลยุทธ์จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตัวแปรต่างๆ เช่น เวลาที่ใช้ในการเข้าและออกจากช่องพิท เวลาหยุดเข้าพิท เวลาที่คาดหวังในการเข้าเส้นชัย โอกาสของความปลอดภัยในการขับขี่ ยางรถที่จะใช้ในแต่ละรอบ และคาดการณ์ความเร็วของรถ คู่แข่งที่ร่วมการแข่งขัน เพื่อทำให้ทีมของตัวเองได้รับชัยชนะในการแข่งแต่ละรอบ
โดยเมื่อกำหนดกลยุทธ์ในการแข่งขันเสร็จเรียบร้อย ทีมกลยุทธ์จะนำเสนอแผนทั้งหมดให้กับนักแข่งและ Product Team ให้รับรู้และลองทดสอบใน Training Sessions ของสนามแข่งจริง (ก่อนวันแข่ง 1-3 วัน)เพื่อดูว่าสมมติฐานกลยุทธ์มีความสมเหตุสมผล เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน แล้วจะมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้ทีมของเราชนะการแข่งขัน จนคว้าแชมป์ไปครองเมื่อจบทัวร์นาเมนต์
ซึ่งการวางกลยุทธ์ของทีม Formula 1 ระดับโลกอย่างทีม McLaren, Red Bull Racing, Mercedes AMG Petronas F1 Team, Scuderia Ferrari ฯลฯ นอกจากจะวางกลยุทธ์เกี่ยวกับปัจจัยของรถทั้งทีมตัวเองและทีมคู่แข่งแล้ว ยังมีการวิเคราะห์ลึกไปถึงอุณหภูมิ หรือสภาพอากาศในวันแข่งขันจริงด้วย เพื่อดูว่าความร้อนของพื้นถนนบนสนามแข่ง จะมีอุณหภูมิเท่าไรและควรใช้ยางประเภทไหนในการขับขี่แต่ละรอบเพื่อให้เกิดการเผาไหม้น้อยที่สุด (ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักแข่ง)
หรือการวิเคราะห์สภาพอากาศในวันนั้นว่ามีโอกาสที่ฝนจะตกที่สนามแข่งมากน้อยเพียงใด เพราะแน่นอนว่าเมื่อฝนตก ถนนของสนามแข่งจะลื่นมากทำให้เป็นอุปสรรคใหญ่ในการขับขี่และทำให้วิสัยทัศน์ในการมองเห็นของนักแข่งลดลง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือทำให้การคำนวณระยะเวลาในการเข้าเส้นชัยคลาดเคลื่อนได้ จึงต้องมีการแก้ปัญหาด้วยการปรับเปลี่ยนยางให้ยึดเกาะพื้นถนนได้ดีขึ้น หรือวิธีต่าง ๆ ที่นักวางกลยุทธ์แต่ละทีมจะแก้ปัญหา
ภาพจาก Formula1
หากต้องการขับขี่รถ Formula 1 บ้างต้องทำอย่างไร ?
ต้องยอมรับว่าสำหรับในประเทศไทยนั้นกีฬา Formula 1 ถือว่าเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่ม ผู้ที่รักในรถแข่งและความเร็วจริง ๆ ไม่ได้เป็นกีฬากระแสหลักเหมือนกีฬาประเภทอื่น ๆ อาจเพราะว่าเป็นกีฬาที่เต็มไปด้วยอันตราย ความเสี่ยง ไม่มีสถานที่ในการขับขี่ เพราะรถ Formula 1 ไม่สามารถเอามาขับตามท้องถนนทั่วไปได้ ต้องขับหรือแข่งขันในสนามเซอร์กิตที่ถูกต้องตามมาตรฐานเท่านั้น ซึ่งในไทยมีเพียงที่เดียว คือสนามช้าง เซอร์กิต อารีนา จ.บุรีรัมย์ และยังต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการผลิตรถ Formula 1 ขึ้นมา (รถ Formula 1 จะไม่มีวางจำหน่ายตามโชว์รูมรถทั่วไป)
ภาพจาก snaplap
สัมผัสประสบการณ์ขับขี่ที่มอบความเร็ว แรง ไม่แพ้รถ F1 กับบริการเช่ารถหรู Supercar ที่ Prime Cars Rental
หากใครที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์ในการขับขี่ด้วยความเร็วแรงเหมือนรถ Formula 1 สัมผัสสมรรถนะเครื่องยนต์จากแบรนด์รถหรูเดียวกับผู้ผลิตรถ Formula 1 อย่าง Ferrari ที่มีโหมด F1 Gear ให้คุณได้เปิดโลกแห่งความเร็วแรงใกล้เคียงรถ Formula 1 สักครั้งในชีวิต หรือลองขับรถหรู ที่ใช้วัสดุเดียวกันกับการผลิตรถ Formula 1 อย่าง คาร์บอนไฟเบอร์ ของ Lamborghini Huracan EVO และ McLaren Artura
รวมถึงแบรนด์ รถหรู ชั้นนำทั่วโลกอย่าง Mercedes Benz, BMW ที่ Prime Cars Rental เรามีบริการ เช่ารถหรู เช่ารถ Supercar ระดับพรีเมียม พร้อมบริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง การันตีด้วยความหรูหราของรถหรูระดับท็อป มอบความสะดวกสบายให้คุณในทุกขั้นตอน ทั้งให้คำปรึกษารุ่นรถ ติดต่อสอบถาม และจองเช่ารถหรูจบได้ง่ายไม่ต้องใช้เอกสารเยอะ จบบนสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว
คุณก็สามารถสัมผัสสุนทรียภาพแห่งการขับขี่เหนือระดับ และประสบการณ์ความเร็วแรง ไม่แพ้รถ F1 ได้ทันที กับ Prime Cars Rental พร้อมแล้วที่จะให้คุณสัมผัสประสบการณ์ขับขี่รถหรูได้แล้วตอนนี้ ติดต่อเลยที่ 081-954-2451 หรือ Line ID: @primecarsrental