เช่ารถอเมริกา ไม่ยากอย่างที่คุณคิด เพราะหลายคนอาจเคว้งเมื่อไปถึงอเมริกา และอยากเช่ารถในอเมริกาแต่ก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง รวมถึงอยากไปเที่ยวแลนด์มาร์คหลาย ๆ ที่ได้เอง ไม่ต้องแออัดบนรถโดยสารสาธารณะ (ซึ่งมีน้อยพอสมควรในประเทศสหรัฐอเมริกา)
ดังนั้นบทความนี้ Prime Cars Rental จะมารวบรวมทุกสิ่งที่คุณต้องรู้ ทั้งวิธีการเช่า, ข้อควรระวัง และอีกมากมายที่คุณต้องรู้ถ้าอยากเช่ารถในอเมริกาแบบง่ายที่สุด โดยขั้นตอนแรกคือ ‘การเตรียมตัวล่วงหน้า’ กับเอกสารที่สำคัญที่คุณต้องมีเบื้องต้น
เอกสารสำคัญที่คุณต้องเตรียมก่อน เช่ารถอเมริกา
นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติทุกคนจะต้องเตรียมเอกสารทั้งหมด 2 อย่างด้วยกันถ้าต้องการเช่ารถในอเมริกา ซึ่งมีดังต่อไปนี้
- ใบขับขี่เมืองไทย (Driving License) เป็นใบขับขี่ภายในประเทศที่คุณต้องมีอยู่แล้ว ซึ่งต้องตรวจสอบให้ดีว่าใบขับขี่ยังไม่หมดอายุ ตัวข้อมูล, รูปและรายละเอียดต่าง ๆ สามารถเห็นได้ชัดเจน
- ใบขับขี่สากล หรือใบขับขี่ระหว่างประเทศ (International Driving License) คุณสามารถยื่นคำร้องขอทำใบขับขี่ประเภทนี้ได้ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้านคุณ โดยใช้หลักฐานคือหนังสือเดินทางฉบับจริง, บัตรประชาชน, ใบขับขี่เมืองไทย, รูปถ่ายสุภาพ 2 นิ้ว 2 ใบถ่ายก่อนยื่นคำขอ 6 เดือน และค่าธรรมเนียม 505 บาท
ใบขับขี่ทั้ง 2 แบบดังกล่าวถือว่าเป็นสิ่งที่คุณ ‘ต้องมี’ ถ้าอยาก เช่ารถอเมริกา ไม่เช่นนั้นคุณจะหมดสิทธิ์เช่ารถในอเมริกาทันที นอกจากนั้น คุณอาจต้องพกหลักฐานยืนยันการเดินทางติดตัวเพิ่มเติมอีกสำหรับการขอวีซ่าหรือเพื่อให้ถูกกฎหมายการท่องเที่ยวตามแต่ละรัฐในอเมริกา เช่น
- พาสปอร์ต
- ตั๋วเครื่องบิน
- บัตรเครดิต
- ประกันภัย
- Travel Book
- บัญชีธนาคาร
- Statement ย้อนหลัง 6, 12 เดือน
*หมายเหตุ เอกสารที่ต้องเตรียมจะแตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ผู้ให้บริการเช่ารถในอเมริกา บางแบรนด์อาจไม่ต้องการหลักฐานทั้งหมดตามที่ลิสต์ไว้ด้านบน โดยอาจใช้แค่บางอย่างเท่านั้น
เช่ารถอเมริกา เจ้าไหนดี?
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมการเช่ารถยนต์ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยสนามบินทุกที่ในอเมริกาจะมีรถ Shuttle Bus ให้บริการพาไปสถานที่เช่ารถฟรี ดังนั้นก่อนคุณจะไปเที่ยวที่อเมริกา คุณควรตัดสินใจเลือกผู้ให้เช่ามาแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้แผนการเดินทางราบรื่นมากที่สุด เช่น จากคนที่เคยเช่ารถอเมริกาใน Pantip, เว็บไซต์ผู้ให้บริการเช่ารถในประเทศ หรือค้นหาใน Google เป็นต้น
ปัจจุบันแบรนด์ผู้ให้เช่ารถอเมริกาก็มีให้เลือกเช่าจองอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ Prime Cars Rental ได้คัดเลือกแบรนด์ผู้ให้บริการมาให้เป็นตัวเลือกกับคุณทั้งหมด 7 อันดับ โดยแบรนด์เหล่านี้เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอเมริกาปี 2022
ซึ่งถ้าอ้างอิงจากมูลค่าความคุ้มค่าการเช่า-ยืมรถแล้ว เราขอแนะนำแบรนด์ Enterprise เนื่องจาก Enterprise คงคุณภาพและราคาของรถเช่า (Cost and Fees Index Score) เป็นอันดับแรก โดยมีให้เลือกตั้งแต่รถยนต์ Economy ไปถึงรถหรู ราคาราว ๆ 19,000 บาทต่อวัน เงื่อนไขการจองมีคร่าว ๆ ดังนี้
- กำหนดระยะทาง ถ้าขับเกินต้องเสียค่าบริการเพิ่ม
- หากต้องการประกัน, อุปกรณ์เสริม ต้องเสียค่าบริการเพิ่ม
แต่ทั้งนี้ แบรนด์อื่น ๆ ที่เราได้คัดเลือกมาดังกล่าวก็มีความแตกต่างในด้านวิธีการเช่าและราคากันอยู่ไม่มาก การเช่าจองรถสามารถทำผ่านแอปพลิเคชันได้แทบทุกเจ้า คุณจึงสามารถเลือกเช่ารถในอเมริกาตามแบรนด์ที่เรานำมาให้ได้เลยจากประเทศไทย เมื่อไปถึงก็สามารถยื่นเอกสารรับรถเช่าได้ทันที และมีราคาถูกกว่าเช่าหน้าเค้าน์เตอร์บริการหน้าศูนย์อยู่มาก (แต่คุณต้องศึกษารายละเอียดการเช่าจองรถแต่ละแบรนด์ให้ละเอียดก่อนเช่าทุกครั้ง)
วิธีการ เช่ารถอเมริกา
หลังจากที่คุณเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องครบ คุณก็สามารถเริ่มเช่ารถอเมริกาได้ทันที โดยบทความนี้ Prime Cars Rental ขอยกตัวอย่างขั้นตอนเช่าจองรถจาก Enterprise เพื่อให้ทุกคนทำตามแต่ละขั้นตอนได้ง่ายมากที่สุด
ขั้นตอนแรกคือการเข้าเว็บไซต์แบรนด์ผู้ให้เช่ารถ จากนั้นคุณก็จะพบกับช่องกรอกข้อมูลตามรูปประกอบด้านบน ซึ่งข้อมูลแต่ละส่วนมีรายละเอียดดังนี้
- Pick-up & Return Location เป็นส่วนให้คุณกรอกสถานที่รับ-คืนรถเช่า โดยคุณสามารถกรอกได้ทั้งชื่อสถานที่, Zip Code และระบบจะค้นหาอัตโนมัติให้เอง ซึ่งถ้าคุณต้องการคืนรถที่อื่น ให้คุณติ๊กที่ ‘Return to a different location’ และเลือกสถานที่ที่คุณต้องการคืนรถอีกรอบ
- Pick-up เป็นช่วงเวลาการเช่ารถว่าจะเริ่มและสิ้นสุดลงในวันที่-เวลาเท่าไหร่
- Renter Age เป็นส่วนให้คุณเลือกว่าคุณอายุเท่าไหร่ ซึ่งจะมีผลกับค่าบริการเพิ่มเติมถ้าคุณอายุไม่ถึงที่กำหนด หรืออายุเกินกว่ากำหนด (ส่วนมากจะต่ำกว่า 25 หรือมากกว่า 60 ปี)
- Coporate Account Number or Promotion Code ส่วนสำหรับกรอกโค้ดส่วนลดการเช่ายืมรถในอเมริกา
- Vehicle Class คุณสามารถเลือกประเภทของรถเช่าได้ที่นี่ โดยมีให้เลือกครบตามที่คุณต้องการ หลังจากนั้นให้คุณกดที่ ‘Check Availability’ เพื่อไปสู่ขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนนี้คือการเลือกรถยนต์ที่คุณต้องการอยากจะเช่า ซึ่งตัวเลือกที่ขึ้นมาคือรถประเภท, รุ่นที่ว่างให้เช่า ณ เวลานั้น โดยคุณสามารถกดที่ Features & Price Details เพื่อเช็คจำนวนผู้โดยสาร, สัมภาระ, สเปค, ประกันภัย, ราคาและภาษีคร่าว ๆ ได้ เมื่อเลือกได้แล้วให้กด ‘Select’ เพื่อไปสู่ขั้นตอนถัดไปได้เลย
สำหรับส่วนของภาษีส่วนใหญ่ที่จะรวมไปกับค่าเช่ารถแล้วก็จะมีดังนี้
- ค่าสัมปทานสนามบิน (Airport Concession Fee)
- ค่าอุปกรณ์ความสะดวก (Facility Charges)
- ค่าท่องเที่ยว (Tourism Charges)
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Sales Tax)
หน้าต่างนี้บอกถึงรายละเอียดอุปกรณ์เสริม (Equipment) โดยจะให้คุณเลือกว่าต้องการเช่าอุปกรณ์เสริมเพิ่มหรือไม่ เช่น วิทยุดาวเทียม Sirius XM, บริจาคค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้มูลนิธิ, ที่นั่งเด็ก, GPS ฯลฯ ซึ่งถ้าต้องการก็สามารถกด ‘Add’ ได้เลย หลังจากนั้นก็ก็กด ‘Continue to Review’ เพื่อไปสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการ เช่ารถอเมริกา
ขั้นตอนสุดท้ายจะให้คุณเช็กรายละเอียดทั้งหมดอีกรอบในส่วนของ Rental Details ซึ่งจะมีทั้งข้อมูลรถเช่า, วันที่, สถานที่สำหรับการเช่ายืม, ประกัน ฯลฯ หลังจากนั้น เว็บไซต์จะให้คุณกรอกข้อมูลในส่วนตัว (Contact Details) โดยจะมีให้กรอกชื่อ, นามสกุล, เบอร์โทรศัพท์และอีเมล
เมื่อกรอกเสร็จให้เลื่อนลงมาจะพบกับ ‘Save Time At The Counter’ ส่วนนี้จะให้คุณประหยัดเวลาขึ้นเมื่อติดต่อกับพนักงานที่ศูนย์ให้เช่าด้วยการกรอกข้อมูลใบขับขี่ ถ้าคุณต้องการกรอกก็ติ๊กที่ ‘Yes, I’d like to save time’ ได้เลย หรือถ้าต้องการไปให้ข้อมูลทีหลังให้ติ๊กที่ ‘No, I’ll provide my information at the counter’
และถ้าคุณต้องการให้ทางแบรนด์ผู้เช่าเตรียมรถให้บริการเมื่อถึงศูนย์ คุณสามารถกรอกข้อมูลไฟลท์การบินของคุณได้ ซึ่งคุณต้องเลือกสายการบินจากช่อง ‘Airline Name’ และกรอกเที่ยวบินของคุณ จากนั้นให้เช็กข้อมูลทั้งหมดอีกรอบ เมื่อถูกต้องแล้วก็กด Reserve Now เพื่อจอง เช่ารถอเมริกา ได้เลย
*ข้อสังเกตอย่างหนึ่งของการชำระเงินสำหรับแบรนด์เช่ารถบางเจ้าคือ ‘ไม่รับเงินสด’ โดยคุณจะต้องจ่ายค่าเช่าผ่านบัตรเครดิตเท่านั้นเนื่องจากมาตรการด้านความปลอดภัย ดังนั้นการเดินทางคุณควรต้องพกบัตรเครดิตติดตัวเสมอเพื่อทั้งจ่ายค่าเช่ารถและใช้จ่ายสินค้าต่าง ๆ
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการ เช่ารถอเมริกา
ค่าน้ำมัน
การเช่ารถอเมริกาจะมีออพชันให้คุณสามารถเลือกได้ยืดหยุ่นว่าคุณต้องการรูปแบบการเติมน้ำมันแบบไหน ซึ่งสามารถอธิบายได้แยกย่อยตามออพชันได้ดังนี้
- เติมคืนเอง ทางแบรนด์ผู้จัดเช่าจะเติมน้ำมันให้คุณเต็มถัง ซึ่งก่อนคืนรถคุณต้องเติมคืนให้เต็มถัง
- ให้บริษัทเติมให้ (Pay After) เป็นออพชันถ้าคุณไม่อยากเติมน้ำมันคืนเอง โดยทางแบรนด์ผู้ให้เช่าจะคิดค่าน้ำมันให้กับคุณเพิ่มหลังจากคุณคืนรถแล้ว
- จ่ายค่าน้ำมันล่วงหน้า (Prepay) เป็นตัวเลือกถ้าคุณอยากจ่ายครั้งเดียวจบ โดยแบรนด์ผู้ให้เช่าจะคิดค่าน้ำมันล่วงหน้ามาแล้วรายวัน คุณก็สามารถขับขี่ต่อได้เลยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
ค่าประกันภัย
ส่วนมากการเช่ารถอเมริกาจะมีประกันภัยบางตัวแถมมาให้แล้ว แต่ก็จะมีประกันบางตัวที่คุณจะต้องจ่ายเสริมเอง ซึ่งประกันดังกล่าวส่วนใหญ่แล้วจะมี 4 ตัวดังนี้
- ประกันค่าเสียหาย (Collision Damage Waiver) เป็นประกันรถยนต์ในกรณีที่รถโดนโจรกรรมหรือได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ ทำให้คุณไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายแต่อย่างใด
- ประกันค่าเสียหายเพิ่มเติม (Supplemental Liability Insurance) เป็นประกันสำหรับคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยคุณจะไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลหรือค่าซ่อมแซมกับคู่กรณีแต่อย่างใด
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident Insurance) เป็นประกันชีวิตสำหรับตัวคุณเองในกรณีทีเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด โดยจะรวมในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด รวมถึงเมื่อค่าชดเชยกรณีเสียชีวิตอีกด้วย
- ประกันทรัพย์สินส่วนบุคคล (Personal Effects Coverage) หากคุณถูกโจรกรรมสินทรัพย์ต่าง ๆ ประกันภัยในส่วนนี้จะคุ้มครองค่าเสียหายส่วนที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดให้กับคุณ
ค่าปรับของการ เช่ารถอเมริกา
นอกจากค่าใช้จ่ายปกติแล้ว ทาง Prime Cars Rental ยังได้รวบรวม ‘ค่าปรับ’ ที่เราอยากให้คุณหลีกเลี่ยงด้วยการปฏิบัติตามกฎการเช่าอย่างเคร่งครัดและขับขี่อย่างปลอดภัย ซึ่งค่าปรับที่คุณควรระมัดระวังนั้นมีดังต่อไปนี้
ค่าปรับคืนรถก่อนกำหนด
ค่าปรับส่วนนี้หลายคนอาจไม่รู้ว่ามีอยู่จริง โดยผู้ให้บริการเช่ารถบางแบรนด์เช่น Alamo จะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มถ้าคุณคืนรถก่อนเวลาที่ได้ระบุไว้ในสัญญา ซึ่งราคาก็จะอยู่ราว ๆ $15 หรือ 450-500 บาท
ค่าปรับคืนรถล่าช้า
ถ้าคุณเที่ยวจนลืมเวลาและส่งรถคืนล่าช้า เช่น นัดหมายในสัญญาว่าจะคืนรถวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 10 โมงตรง แต่มาจริง ๆ คือตอนเที่ยง คุณก็จะถูกคิดค่าปรับคืนรถล่าช้าเพิ่มเติม
ภาพจาก 4x4tanzania
ซึ่งในแต่ละแบรนด์ก็มีค่าปรับสูงต่ำแตกต่างกันไป เช่น Enterprise จะอยู่ที่ $4.90 หรือ 175-200 บาทต่อชั่วโมง และบางแบรนด์ก็จะคิดเป็นรายวันแทน เช่น Avis จะคิด $10 หรือ 350-375 บาท ซึ่ง Prime Cars Rental ขอแนะนำว่าควรนำรถไปคืนให้ตรงตามเวลาที่กำหนดจะดีที่สุดครับ
ค่าปรับโดยสารรถยนต์เกินจำนวนที่กำหนด
หากทริปเที่ยวอเมริกาของคุณเดินทางตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป คุณอาจต้องเช่ารถแยกมากกว่า 1 คัน เพราะกฎหมายในอเมริกามีกำหนด (และบังคับใช้อย่างเคร่งครัดมาก) ว่าห้ามนั่งรถไม่เกินกี่คน ซึ่งรถแต่ละคันก็จะระบุชัดเจนว่าห้ามมีผู้โดยสารเกิน X คน ซึ่งถ้าดูจากบ้านเราอาจอลุ่มอล่วยเข้าไปนั่งเบียดกันได้จนครบ แต่ที่อเมริกาถ้าตำรวจตรวจพบเจอจะมีโทษปรับที่สูงมาก
ค่าปรับกุญแจหาย
มีผู้เช่าหลายคนที่ทำกุญแจหาย ซึ่งทางผู้ให้เช่าจะคิดค่าปรับในส่วนนี้เพิ่มเติม ซึ่งราคาก็แตกต่างตามประเภทของกุญแจที่คุณทำหาย โดยถ้าเป็นกุญแจปกติอาจจะอยู่ราว ๆ 640 บาท แต่ถ้าเป็น Smart Key มีปุ่มควบคุมจากระยะไกลราคาก็อาจพุ่งไปถึง 10,000 บาทได้เลย และถ้าคุณได้รับกุญแจมาเป็นพวงที่มีกุญแจมากกว่า 1 ดอก ถ้าคุณทำหายทั้งพวงคุณก็จะต้องจ่ายชดเชยให้ครบทุกดอกอีกด้วย
ค่าปรับยกเลิกการเช่า
ผู้ให้เช่ารถบางแบรนด์จะมีข้อกำหนดชัดเจนเกี่ยวกับระยะเวลาการยกเลิกการเช่าจองรถในอเมริกา ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีราคาค่าปรับแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น
- แบรนด์ National จะคิดค่าปรับ $50 หรือราว ๆ 1,900 บาท ถ้าคุณยกเลิกการเช่าในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนถึงเวลาจอง
- แบรนด์ Hertz จะคิดค่าปรับ $100 หรือราว ๆ 3,900 บาท ถ้าคุณยกเลิกการเช่าในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนถึงเวลาจอง
เช่ารถในอเมริกา มีข้อดีอะไรบ้าง?
ทั้งนี้ หลายคนก็อาจสงสัย “ทำไมเราถึงไม่ขึ้นรถไฟฟ้าหรือนั่งรถโดยสารอื่น ๆ เพื่อโดยสารแทน” ซึ่ง Prime Cars Rental จะมาบอกถึงประโยชน์ของการเช่ารถในอเมริกาว่ามีข้อดีอะไรบ้าง
ประหยัดเวลา เพิ่มความสะดวกสบายในการท่องเที่ยว
เมื่อคุณไปท่องเที่ยวในอเมริกาไม่ว่าจะไปเดี่ยว, ไปเป็นคู่หรือไปกับครอบครัว แน่นอนว่าคุณต้องได้วางแผนทริปท่องเที่ยวเอาไว้บ้างแล้วว่าจะไปที่ไหน อย่างไร ภายในเวลากี่วัน ซึ่งคงจะไม่ดีแน่ถ้าคุณต้องรอรถโดยสารที่ถ้ายิ่งเป็นเขตรัฐที่ระบบขนส่งไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ คุณอาจจะต้องรอนานหลายชั่วโมง
ดังนั้นทุกวินาทีของของคุณในอเมริกาจึงมีค่าอย่างมาก การเช่ารถในอเมริกาจะช่วยให้คุณเปลี่ยนเวลารอรถที่แสนนานเป็นเวลาเดินเที่ยวชิค ๆ คูล ๆ หลายแห่งตรงตามแพลนที่คุณวางเอาไว้ นอกจากนั้นยังให้คุณเดินทางได้สะดวกรวดเร็ว มีความเป็นส่วนตัวสูง ฟีลลิ่งการเดินทางท่องเที่ยวครบมาเต็มแน่นอน
ได้อิสระในการท่องเที่ยว
ที่เที่ยวในอเมริกาไม่ได้มีเพียงแค่เมืองใหญ่ ๆ เท่านั้น แต่ก็มีแลนด์มาร์ค, ตรอกซอกซอยสุด Unseen ที่แน่นอนว่าคุณไปเยือนไม่ถึงแน่นอนถ้าเดินทางด้วยรถโดยสารธรรมดา ๆ ดังนั้นถ้าคุณอยากดื่มด่ำกับประสบการณ์เดินทางท้องถิ่น Local ได้แบบสมบูรณ์ การ เช่ารถอเมริกา จึงเป็นทางเลือกที่มอบความอิสระให้กับคุณได้มากที่สุดนั่นเอง
ได้ลองสัมผัสรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่คุณไม่เคยขับขี่มาก่อน
บริษัทผู้ให้เช่ารถยนต์ต่างก็มีรถยนต์หลากหลายแบรนด์ทั้งระดับ Eco ไปจนถึงเกรดพรีเมียมสุดหรูให้คุณได้เลือกสรรเช่าขับได้อิสระ ซึ่งในการเช่ารถในอเมริกาจึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเปิดประสบการณ์การขับขี่ใหม่ ๆ ให้กับชีวิตคุณอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลองฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในรถ, ดื่มด่ำห้องโดยสารเปิดประทุนสุดหรูที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน หรือจะเพียงแค่ขับโชว์ในตัวเมืองเก๋ ๆ ก็ทำได้ตามที่คุณต้องการ
เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่ารถสาธารณะ
ถ้าคุณมัดรวมประโยชน์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน คุณจะพบว่าการ เช่ารถอเมริกา เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า มีข้อดีมากมายกว่าการโดยสารรถสาธารณะอยู่เยอะมาก ซึ่งถ้างบคุณจำกัด คุณก็สามารถเลือกเช่ารถในอเมริการุ่นที่ราคาถูกลงมาได้ตามต้องการ
และถึงแม้ว่าการโดยสารรถสาธารณะจะถูกกว่าจริง แต่การเดินทางคุณจะถูกจำกัด เพราะรถสาธารณะมีเวลาการให้บริการที่กำหนดเอาไว้ชัดเจน ถ้ารถหมดเที่ยวคุณก็ไม่สามารถเดินทางได้ ดังนั้นทริปท่องเที่ยวในอเมริกาของคุณจะขาดความสะดวกและความเป็นส่วนตัวไปเกือบ 100% เลยทีเดียว
นอกจากนั้น หลายคนคงทราบว่ารถโดยสารบางประเภทในอเมริกาคิดค่าโดยสารแพงมาก ๆ เช่น Taxi, Grab หรือ Uber ซึ่งเทียบกันแล้วการเลือกเช่ารถในอเมริกาถือว่าคุ้มค่ากว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน
เช่ารถอเมริกา เลือกได้หลายแบรนด์ แต่ถ้าเช่ารถหรูในไทยต้อง Prime Cars Rental เท่านั้น
เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเช่ารถในอเมริกาได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง แต่ทั้งนี้ถ้าพูดถึงการเช่ารถหรูในประเทศไทย Prime Cars Rental ถือว่าเป็นแบรนด์ที่คุณควรเลือกพิจารณาเป็นอันดับ 1
เพราะรู้หรือไม่? ว่าราคาเช่ารถที่อเมริกาถ้าเทียบกับ Prime Cars Rental ถือว่าราคาต่างกันไม่มาก (รถ Sport แบรนด์ Enterprise เริ่มต้นราว ๆ 19,000 บาท เทียบกับ Prime Cars Rental เริ่มต้นเพียง 15,000 บาท) แต่สิ่งที่แตกต่างกันที่เห็นได้ชัดคือบริการที่ ‘เหนือระดับกว่า’ ซึ่งแบรนด์ผู้เช่ารถที่ไหนก็ให้ได้ไม่เท่า ไม่ว่าจะเป็น
- อบ O-Zone รถยนต์ให้ทุกรุ่นก่อนคุณนำไปใช้บริการ หายห่วงกับปัญหาเชื้อโรคและกลิ่นอับ
- จัดส่งรถยนต์ให้เช่า-ขับถึงที่ อีกระดับของการบริการเช่าขับในประเทศไทย
- อธิบาย-ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการใช้รถยนต์ให้แบบละเอียดก่อนขับขี่
- จัดโปรโมชันลดราคาให้อยู่เสมอ
- มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
Prime Cars Rental เป็นผู้ให้เช่ารถยนต์หรู ราคาดีที่สุด ครบครันที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่าง Mercedes, Lamborghini, BMW, หรือ Porsche เรามีให้บริการพร้อมสำหรับคุณ ซึ่งทุกขั้นตอนการจองสามารถทำได้ผ่านสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ไม่ต้องเตรียมเอกสารให้ยุ่งยาก แต่ถ้าพบกับปัญหาหรืออยากสอบถามเราก็พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงที่เบอร์โทรศัพท์ 081-954-2451 หรือสอบถามออนไลน์สะดวก ๆ ได้เลยที่ Line: @primecarsrental